กระแสแรงต่อเนื่อง! เปิดปมความจริงในอดีต “ทราย สก๊อต” สะท้อนเรื่องราวสุดสะเทือนใจ ถูกแชร์สนั่นโลกโซเชียล
กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในโลกออนไลน์ เมื่อเรื่องราวในอดีตของ “ทราย สก๊อต“ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ทราย – Merman” ถูกขุดคุ้ยและส่งต่อกันอย่างกว้างขวาง หลังจากที่เจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยความจริงผ่านทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เนื้อหาในโพสต์ดังกล่าวได้สะท้อนถึงประสบการณ์อันเจ็บปวดที่ทราย สก๊อตต้องเผชิญในอดีต โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับ “มีนา” พี่เลี้ยง ที่ทำร้ายทรายตั้งแต่ยังเด็ก.
ตามข้อมูลจากโพสต์ของทราย สก๊อต พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างทรายกับพี่เลี้ยงมีนาเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ตั้งแต่สมัยวัยเด็กจนกระทั่งเติบโต. ทราย สก๊อตอ้างว่าตนเองถูกมีนากระทำร้ายในวัยเด็ก และยังคงจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้. เมื่อทรายพยายามบอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้มีนาฟัง มีนากลับแสดงท่าทีไม่ยอมรับและขอให้ทรายเล่าทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น. ทรายรู้สึกแย่ที่ต้องรื้อฟื้นความเจ็บปวดในอดีต.
ความสัมพันธ์ระหว่างทราย สก๊อตกับ “แม่” ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโพสต์ดังกล่าว. ทรายรู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับจากแม่คือความทรมานที่ไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งสภาพจิตใจและการใช้ชีวิตของทราย. ทรายเล่าว่าตนเองไม่สามารถกลับบ้านได้อย่างสบายใจและต้องเผชิญเรื่องราวเกี่ยวกับพี่เลี้ยงมาโดยลำพัง. แม้กระทั่งในวัยผู้ใหญ่ ทรายยังต้องไปแจ้งความเรื่องพี่เลี้ยงด้วยตัวเอง แต่ตำรวจกลับแจ้งว่าแม่ของทรายต้องเป็นพยาน.
ในที่สุด ทรายตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ฟัง เพื่อต้องการให้แม่ไล่มีนาออก. ตอนที่แม่ฟังเรื่องราว แม่ร้องไห้และกล่าวขอโทษที่ไม่สามารถปกป้องทรายได้. อย่างไรก็ตาม แม่ไม่ได้ตัดสินใจไล่มีนาออกในทันที โดยอ้างว่ามีธุระที่กรุงเทพฯ. ทรายรู้สึกไม่ปลอดภัยและขอร้องไม่ให้แม่ทิ้งไปในช่วงนั้น แต่แม่ตอบว่ามีพนักงานอยู่รอบข้างจำนวนมากจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร.
ต่อมา “น้าแท้ๆ (น้องสาวแม่)” ได้เข้ามาช่วยกดดันให้แม่ไล่พี่เลี้ยงคนดังกล่าวออก. หลังจากที่พี่เลี้ยงมีนาถูกไล่ออก ทรายรู้สึกเหมือนชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น. ทรายได้รับความรักและความอบอุ่นจากครอบครัวอย่างจริงจังในช่วงนั้น.
แต่เรื่องราวไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น ในช่วงปลายปี 2564 ญาติๆ ของทรายได้นำภาพจากอินสตาแกรมของแม่มาให้ดู และทรายต้องตกใจเมื่อพบว่าแม่ได้ จ้างพี่เลี้ยงมีนากลับมาทำงาน อีกครั้ง. เมื่อน้าของทรายโทรไปสอบถาม แม่ให้เหตุผลว่ามีนาเป็นพนักงานที่ดีและสามารถเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้. การกระทำดังกล่าวของแม่สร้างความเจ็บปวดให้กับทรายเป็นอย่างมาก. ทรายรู้สึกเหมือนถูกทำร้ายซ้ำเติม และไม่ได้รับการใส่ใจจากครอบครัวเท่าที่ควร. ท้ายที่สุด ทรายตัดสินใจย้ายออกจากบ้านน้า เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่สำคัญพอที่จะให้คนในครอบครัวออกมาปกป้อง.
จากเรื่องราวที่ทราย สก๊อตได้เปิดเผย ทำให้เกิดกระแสความเห็นใจและส่งกำลังใจให้กับทรายอย่างล้นหลามในโลกโซเชียลมีเดีย ผู้คนต่างแชร์และแสดงความคิดเห็นถึงความโหดร้ายของการถูกทำร้ายในวัยเด็ก และความซับซ้อนของความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำของผู้เป็นแม่ที่สร้างความเจ็บปวดให้กับลูก
แม้จะต้องเผชิญกับเรื่องราวอันยากลำบากในอดีต แต่ปัจจุบัน ทราย สก๊อตได้เริ่มต้นชีวิตใหม่และมุ่งมั่นกับการทำงานอนุรักษ์ทะเล. ทรายได้ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือทะเลและชุมชน. เรื่องราวในอดีตที่ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนการตอกย้ำถึงความเข้มแข็งของทราย สก๊อตที่สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตมาได้ และยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นด้วยการทำความดีเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม.
อย่างไรก็ตาม ทรายเองก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของแม่ที่ไม่เคยชื่นชมในสิ่งที่ทรายทำ และยังคงเรียกงานอนุรักษ์ของทรายว่า “สกปรก”. นอกจากนี้ ทรายยังเคยถูกแม่ไล่ออกจากบ้านในปี 2564. และล่าสุด ยังไม่สามารถเข้าร่วมงานสวดของลุงได้เนื่องจากมีนายังคงอยู่ในบ้าน.
เรื่องราวของทราย สก๊อตเป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของการถูกทำร้ายในวัยเด็ก และความสำคัญของการได้รับความรักและการสนับสนุนจากครอบครัว การที่เรื่องราวนี้ถูกแชร์และพูดถึงอย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นว่าสังคมกำลังให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้มากขึ้น และพร้อมที่จะรับฟังและให้กำลังใจผู้ที่เคยประสบกับความเจ็บปวดในอดีต.


