ในยุคที่สิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาเป็น “เกมแห่งอำนาจ” การเปลี่ยนมือ EPL จาก TrueVisions มาสู่ AIS Play ผ่าน JAS ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนช่องดูบอล แต่คือการสั่นสะเทือนทั้งตลาดสตรีมมิ่งไทย ฐานผู้ชมมหาศาลที่พร้อมเคลื่อนย้ายตามคอนเทนต์ที่ใช่ กำลังเขียนบทใหม่ของการแข่งขันระหว่างสองยักษ์สื่อบันเทิง — พร้อมเดิมพันด้วยเรตติ้ง กระเป๋าสตางค์ และความภักดีของผู้บริโภค
แต่เมื่อ “แพลตฟอร์มหนึ่งมี EPL อีกแพลตฟอร์มมีกีฬาหลากหลาย” และราคาสูสีกัน คำถามคือ ผู้บริโภคควรเลือกใคร? ระหว่าง AIS Play ที่ดูเหมือนจะรุกตลาดหนักด้วยพันธมิตรระดับโลก กับ TrueVisions ที่แม้ไม่มีพรีเมียร์ลีก แต่ยังครองตำแหน่งเจ้ากีฬาอื่นๆ… หรือจริง ๆ แล้ว การเลือกไม่ใช่แค่เรื่องของคอนเทนต์ แต่อยู่ที่ “มูลค่าที่แท้จริง” ที่แต่ละแพลตฟอร์มมอบให้?

A. โอกาสและจุดแข็งของแต่ละฝั่ง
AIS Play โดดเด่นเรื่อง “ความครบจบในแพลตฟอร์มเดียว” ด้วยพันธมิตรระดับพรีเมียมทั้ง Netflix, Disney+ Hotstar, Max และอีกหลายเจ้า รวมถึงแพ็คเสริมที่ (มีข่าวว่า) จะให้ดู EPL ได้ในราคาเพียง 329 บาทต่อเดือน หากเป็นจริง ถือว่าบุกตลาดฟุตบอลได้อย่างตรงจุด และตอบโจทย์ทั้งคอบันเทิงและคอกีฬาได้พร้อมกัน
TrueVisions แม้ไม่มี EPL แต่ยังถือไพ่สำคัญคือรายการกีฬาระดับโลกหลายประเภท ทั้ง F1, UFC, เทนนิส, NBA และฟุตบอลถ้วยอื่นๆ พร้อมทัพซีรีส์และรายการไทย-เทศที่สู้ได้ในหลายระดับ และยังเปิดให้สมัครได้ทุกค่ายมือถือ ไม่ล็อกอยู่กับลูกค้าทรูเท่านั้น
B. ความเสี่ยงและข้อจำกัด
AIS Play แม้ได้สิทธิ์ถ่ายทอด EPL แต่ความชัดเจนเรื่องจำนวนอุปกรณ์ที่สามารถดูได้พร้อมกันยังเป็น “จุดเสี่ยง” ที่อาจทำให้ผู้ใช้งานลังเล โดยเฉพาะร้านอาหาร/ผับที่ต้องการเปิดให้ลูกค้าหลายคนดูพร้อมกัน นอกจากนี้ เงื่อนไขว่าต้องเป็นลูกค้า AIS รายเดือนอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับบางกลุ่ม
TrueVisions สูญเสียคอนเทนต์เรือธงอย่าง EPL ซึ่งเป็นแม่เหล็กดึงคนดูหลักโดยเฉพาะกลุ่มผู้ชายวัยทำงาน และแม้จะมีแพลตฟอร์ม NOW ที่ราคาย่อมเยา แต่แพ็คเกจสูงสุดก็ยังแพงกว่า AIS Play แบบเห็นได้ชัด ทำให้ “ความคุ้มค่า” ต่อราคาต่อบาทกลายเป็นคำถามสำคัญ

C. เกมของผู้เล่นใหญ่
AIS + JAS จับมือกันเปลี่ยนสมรภูมิสื่อ ด้วยกลยุทธ์ “Converged Platform” ที่เอาความเร็วของเน็ต AIS มาคู่กับคอนเทนต์คุณภาพผ่านพันธมิตรอย่าง Monomax และแพลตฟอร์มระดับโลก ถือเป็นการสร้าง “แรงเหวี่ยงใหม่” ที่ TrueVisions ต้องรับมือ
TrueVisions พยายามพลิกเกมด้วยโมเดล “NOWtainment” เน้นยืดหยุ่นและเข้าถึงง่าย แต่ก็ต้องเร่งวางตำแหน่งใหม่ให้ผู้บริโภครับรู้ว่า “ไม่มี EPL ก็ยังดูสนุกได้” และต้องจับตาว่า True จะดึงพันธมิตรใหม่ใดมาเสริมเกมหรือไม่ เพราะสถานการณ์ตอนนี้บีบให้ต้องรีเฟรชแบรนด์อย่างรวดเร็ว

D. มองไปข้างหน้า: อนาคตของศึกสตรีมมิ่งในไทย
ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า ตลาดสตรีมมิ่งในไทยจะเข้าสู่โหมด Consolidation มากขึ้น — ผู้ให้บริการที่ไม่มีคอนเทนต์แม่เหล็กหรือความคุ้มค่าชัดเจน อาจถูกกลืนหายไปอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ AIS Play กำลังกลายเป็น “ศูนย์กลางของความบันเทิงดิจิทัล” ที่มีครบทั้งกีฬา ซีรีส์ และรายการต่างประเทศ
อีกด้าน TrueVisions จะต้องรีบปรับแผนให้ “กีฬาอื่นๆ” มีพลังพอจะยืนชนกับ EPL ให้ได้ มิฉะนั้นอาจต้องยอมเสียฐานลูกค้าบางส่วนไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อเกมการแข่งขันไม่ใช่แค่เรื่อง “ใครมีคอนเทนต์มากกว่า” แต่เป็นเรื่อง “ใครเข้าใจพฤติกรรมคนดูดีกว่า” นี่คือเวลาที่ผู้บริโภคต้องหันกลับมาดูพฤติกรรมของตัวเองว่าเราคือใคร: คนดูบอล? คนดูซีรีส์? หรือคนที่ต้องการทุกอย่างในราคาที่จับต้องได้? เพราะสุดท้ายแล้ว สงครามสตรีมมิ่งครั้งนี้ไม่ได้ชี้ขาดด้วยคอนเทนต์ แต่ด้วย “ความชัดเจนของคุณค่าที่จับต้องได้” ต่อผู้ใช้แต่ละคน
ข้อมูล : brandinside
