เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ แถลงผลการประชุมว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้รับข้อมูลรายงานศึกษาจาก คณะกรรมาธิการไอซีที วุฒิสภาชุดก่อน ซึ่งยืนยันว่า ประธาน กสทช. คนปัจจุบันขาดคุณสมบัติจริง โดยไม่มีข้อโต้แย้งในสาระสำคัญ อีกทั้งกรรมาธิการยังเตรียมเชิญ นายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงกรณีที่เรื่องดังกล่าวถูกยื่นร้องเรียนมานานกว่า 6 เดือนแต่ยังไม่มีความคืบหน้า พร้อมหารือแนวทางดำเนินการส่งเรื่องถึงหน่วยงานด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้า เพื่อรักษาความถูกต้องของกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ
ที่รัฐสภา เวลา 14.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ที่ประชุมได้รับข้อมูลจาก คณะกรรมาธิการกิจการโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (กมธ.ไอซีที) วุฒิสภาชุดที่แล้ว ซึ่งได้ศึกษาข้อมูลและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถสรุปได้ว่า ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คนปัจจุบันขาดคุณสมบัติ ตามกฎหมาย
ข้อมูลในรายงานดังกล่าวได้รับการพิจารณาแล้วว่าไม่มีข้อโต้แย้ง ทั้งยังผ่านกระบวนการพิจารณาของ กมธ.ไอซีที วุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงขั้นตอนการส่งเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงประธาน กสทช. อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนดังกล่าวกลับไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากวุฒิสภาชุดก่อนหมดวาระลงเสียก่อน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม กมธ.มั่นคงฯ ได้หารือถึงการจัดทำหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ ในฐานะผู้มีหน้าที่เสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ โดยมีข้อมูลว่าเรื่องนี้เคยมีประชาชนร้องเรียนมายังนายกรัฐมนตรีมาแล้วนานกว่า 6 เดือน แต่ยังไม่มีการชี้แจงจากรัฐบาลแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ตัวแทนจาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเข้าร่วมประชุม ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลว่ารัฐบาลจะมีแนวทางดำเนินการต่อประเด็นดังกล่าวอย่างไร ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศในด้านความน่าเชื่อถือของกระบวนการแต่งตั้งบุคคลในตำแหน่งระดับสูงขององค์กรอิสระ
สำหรับแนวทางถัดไป กมธ.มั่นคงฯ เตรียมหารือในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาทางเลือกในการดำเนินการแจ้งต่อ หน่วยงานด้านกฎหมายภายนอก เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบตามกฎหมาย โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนและอาจได้ข้อยุติ
ข้อมูล : matichon