OpenAI เปิดตัว Deep Research: AI Agent สำหรับการวิจัย
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025 OpenAI ได้เปิดตัว “Deep Research” ซึ่งเป็น AI Agent ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพการวิจัยบนแพลตฟอร์ม ChatGPT โดยเครื่องมือนี้สามารถค้นคว้า วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งออนไลน์หลายร้อยแห่ง และสร้างรายงานการวิจัยได้อย่างรวดเร็ว
ความสามารถของ Deep Research
- การประมวลผลข้อมูล: Deep Research ใช้โมเดลการใช้เหตุผลรุ่นใหม่ o3 ที่ปรับแต่งสำหรับการท่องเว็บและวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยในการค้นคว้าและสังเคราะห์ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างรายงานในระดับนักวิจัย
- การรับคำสั่ง: สามารถรับคำสั่งทั้งที่เป็นข้อความ รูปภาพ และไฟล์ PDF ทำให้การวิจัยมีความยืดหยุ่นและครอบคลุมมากขึ้น
- ความรวดเร็ว: จากที่มนุษย์อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเขียนงานวิจัย Deep Research สามารถสร้างรายงานได้ภายในเวลาเพียง 5-30 นาที
การใช้งานและการเข้าถึง
ปัจจุบัน Deep Research พร้อมให้บริการสำหรับผู้ใช้ ChatGPT ระดับ Pro และจะขยายไปยังผู้ใช้ระดับ Plus และ Team ในอนาคตอันใกล้ ผู้ใช้สามารถเปิดแชตบอต ChatGPT และเลือก ‘deep research’ จากนั้นป้อนคำถามหรือแนบไฟล์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ AI ดำเนินการวิจัย
เป้าหมายและประโยชน์ของ Deep Research
OpenAI ระบุว่า Deep Research ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการทำงานกับข้อมูลเชิงลึกในสาขาต่าง ๆ เช่น การเงิน วิทยาศาสตร์ นโยบาย และวิศวกรรม โดยมุ่งเน้นการค้นคว้าที่ละเอียด แม่นยำ และเชื่อถือได้ นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคทั่วไปในการค้นคว้าข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าต่าง ๆ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์
ความก้าวหน้าสู่ AGI
การเปิดตัว Deep Research ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนา AGI (Artificial General Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ที่มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ ซึ่งสามารถสร้างสรรค์งานวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ และช่วยในการวิจัยที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Deep Research ของ OpenAI เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูงในการเสริมสร้างกระบวนการวิจัย ช่วยลดเวลาและความยุ่งยากในการค้นคว้าและสังเคราะห์ข้อมูล ทำให้นักวิจัยและผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำและเชื่อถือได้อย่างรวดเร็ว
ข้อมูล/ภาพ : openai.com, theverge.com