รัฐบาล เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพหลอกชวนไปทำงานฟาร์มที่ออสเตรเลีย

  • POLITICS
  • พฤศจิกายน 21, 2024

รองโฆษกรัฐบาล “คารม พลพรกลาง” เตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลียยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย

วันที่ 21 พ.ย. 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพใช้สื่อออนไลน์ทั้งเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กโฆษณาชักชวนคนไทยไปทำงานฟาร์มในออสเตรเลีย โดยแอบอ้างว่ารัฐบาลออสเตรเลียและกระทรวงแรงงานร่วมมือจัดหาคนไทยไปทำงานในออสเตรเลีย โดยจะได้รับวีซ่าประเภททำงานเป็นระยะเวลา 3-5 ปี ได้รับค่าจ้างเดือนละ 90,000 – 120,000 บาท และนายจ้างจะจ่ายค่าดำเนินการ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า พร้อมจัดหาที่พักให้ตลอดระยะทำงาน

“เมื่อมีผู้สนใจหลงเชื่อจะให้ส่งข้อมูลส่วนตัว ชื่อ สกุล ที่อยู่ พร้อมเอกสารสำคัญ อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ทะเบียนบ้าน อ้างว่าจะใช้ในการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและยื่นขอวีซ่าทำงาน จากนั้นจะให้โอนเงินเป็นค่ามัดจำหรือเป็นค่าดำเนินการด้านเอกสารเป็นเงินประมาณ 100,000 – 200,000 บาท และเมื่อชำระเงินครบแล้ว จะไม่มีการติดต่อหรือดำเนินการตามที่สัญญาไว้ และผู้เสียหายจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ตามกำหนดเวลา และยังมีกรณีการชักชวนให้คนไทยยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวแทนวีซ่าทำงานโดยมีการสัญญาว่าจะช่วยยื่นขอวีซ่าทำงานภายหลังจากการเดินทางไปถึงออสเตรเลีย และเมื่อเดินทางถึงแล้ว ผู้ที่เสียหายจะไม่สามารถติดต่อกับตัวแทนหรือได้รับการช่วยเหลือตามที่สัญญาไว้” นายคารม ระบุ

นายคารมเน้นย้ำว่า รัฐบาลออสเตรเลียยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย เตือนคนไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศก่อนตัดสินใจโอนเงินให้สายนายหน้าหรือผู้แทนบริษัทรายใดขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศจากกรมการจัดหางาน เว็บไซต์กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน doe.go.th/ipd ปัจจุบันมิจฉาชีพมีกลวิธีสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อหลอกลวงคนหางานหลายวิธี โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีการดำเนินคดีสายนายหน้าเถื่อนแล้ว 452 ราย หลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 608 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายจำนวน 44,223,300 บาท ซึ่งประเทศที่พบคนหางานถูกหลอกลวงไปทำงานมากที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐอเมริกา และไอซ์แลนด์ ตามลำดับ

ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ

author avatar
CatchUp

Related Posts

  • POLITICS
  • มกราคม 22, 2025
  • 5 views
“นายกฯอิ๊งค์” หารือผู้บริหาร Coca-Cola, เนสท์เล่, DP World ชูศักยภาพไทย

“นายกฯ แพทองธาร” หารือผู้บริหา…

  • POLITICS
  • มกราคม 21, 2025
  • 6 views
โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่ง ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ

โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน…

You Missed

“ดีเอสไอ” อนุมัติให้ทำการสืบสวน “คดีแตงโม” ตกเรือแล้ว

  • มกราคม 22, 2025
  • 1 views
“ดีเอสไอ” อนุมัติให้ทำการสืบสวน “คดีแตงโม” ตกเรือแล้ว

หนุ่มขับชนไรเดอร์ได้ประกัน เมียรับศพ แกะมือที่กำแน่น บอกไม่ต้องแค้นเขาแล้ว

  • มกราคม 22, 2025
  • 5 views
หนุ่มขับชนไรเดอร์ได้ประกัน เมียรับศพ แกะมือที่กำแน่น บอกไม่ต้องแค้นเขาแล้ว

‘ซีเกท’ เผยรับอานิสงส์ ‘AI’ จากดีมานด์ ’สตอเรจ’ พุ่ง

  • มกราคม 22, 2025
  • 3 views
‘ซีเกท’ เผยรับอานิสงส์ ‘AI’ จากดีมานด์ ’สตอเรจ’ พุ่ง

5 ตลาดธุรกิจ LGBTQ ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้

  • มกราคม 22, 2025
  • 6 views
5 ตลาดธุรกิจ LGBTQ ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้

ศาลอาญาสั่งจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน ทนายเดชา หมิ่น”อาจารย์อ็อด”

  • มกราคม 22, 2025
  • 3 views
ศาลอาญาสั่งจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน ทนายเดชา หมิ่น”อาจารย์อ็อด”

ก.พ. 68 เพิ่มสลากดิจิทัลอีก 1 ล้านใบ ให้ผู้ซื้อเข้าถึงราคาที่เป็นธรรม

  • มกราคม 22, 2025
  • 4 views
ก.พ. 68 เพิ่มสลากดิจิทัลอีก 1 ล้านใบ ให้ผู้ซื้อเข้าถึงราคาที่เป็นธรรม