สหพันธ์ชาวไร่อ้อยออกโรง หลังราคาอ้อยขั้นต้นปีนี้ “ต่ำกว่า” ต้นทุน ได้แค่ 1,100 บาท วอนรัฐอัดฉีดเงินตัดอ้อยสดลดฝุ่น PM 2.5 ช่วยเพิ่มค่าอ้อย
วันที่ 28 ตุลาคม 2567 หลังจากราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกยังไม่มีทีท่าจะปรับราคาขึ้นเกินไปกว่า 21-22 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งจะมีผลต่อการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นปี 2567/68 นั้น
ล่าสุดมีรายงานข่าวเข้ามาว่า สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย โดยนายปารเมศ โพธารากุล ประธานสหพันธ์ ได้ทำหนังสือถึงนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอความช่วยเหลือราคาอ้อยปีการผลิต 2567/68 ตกต่ำ
โดยหนังสือฉบับดังกล่าวลงวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา แจ้งประมาณการราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต 2567/68 จะมีราคาแค่ 1,100 บาทต่อตัน (ณ.10 CCS) เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นของปีที่ผ่านมา (2566/67) ที่มีราคาอยู่ที่ 1,420 บาท หรือต่ำกว่าตันละ 320 บาท
ขณะที่ต้นทุนการผลิตอ้อยปี 2567/68 ทางสหพันธ์ชาวไร่แจ้งเข้ามาว่าจะอยู่ที่ประมาณตันละ 1,400 บาท นั้นหมายความว่าการปลูกอ้อยเพื่อส่งเข้าโรงงานน้ำตาลปีนี้ ชาวไร่อ้อยจะต้องประสบภาวะขาดทุน อันเป็นผลมาจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกไม่ปรับราคาขึ้น
ดังนั้น สมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยจึงขอให้ รมต.อุตสาหกรรม พิจารณาแนวทางช่วยเหลือ (เพิ่มราคาอ้อย) ให้ชาวไร่อ้อยได้รับราคาอ้อยที่คุ้มกับต้นทุนการผลิตและตัดอ้อยเพื่อลดอ้อยไฟไหม้ อันจะเป็นการลดฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ด้วย
โดยชาวไร่อ้อยเบื้องต้นจะขอรับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตจากรัฐบาลด้วยพิจารณาให้เงินช่วยเหลืออีกตันละ 200 บาท รวมเงินที่ชาวไร่อ้อยจะได้รับ 1,300 บาท (ค่าอ้อยขั้นต้น 1,100 บาท+200 บาท)
“แนวทางความช่วยเหลือด้วยการบวกเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดอีก 200 บาท จะคล้ายกับการช่วยเหลือราคาอ้อยปี 2561/62 กับปี 2562/63 ที่เคยใช้กันมาก่อนหน้านี้แล้ว” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่าราคาอ้อยปี 2566/67 ที่สูงถึง 1,420 บาทต่อตัน เป็นผลมาจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกขยับขึ้นมาถึง 27 เซนต์ต่อปอนด์ ในขณะที่ราคาน้ำตาลช่วงนี้อยู่ที่ 21-22 เซนต์ต่อปอนด์ แม้ว่าจะมีรายงานข่าวเข้ามาว่าบราซิลซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลทรายรายใหญ่ของโลกจะประสบปัญหาภัยแล้งก็ตาม
ด้านผลผลิตอ้อยของประเทศไทยในฤดูกาลนี้คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตประมาณ 92-93 ล้านตัน สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่มีอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลประมาณ 82 ล้านตัน
ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติ