พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุมทวิภาคี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของ สปป.ลาว ว่า ได้ขอให้ทาง สปป.ลาว พิจารณากลับมาเปิดให้บริการด่านชายแดนที่ยังปิดอยู่ และขอให้ สปป.ลาว อำนวยความสะดวกการส่งออกสินค้าของไทยผ่านแดนไปจีนและเวียดนามผ่านเส้นทาง R3A เส้น R9 เส้น R12 และรถไฟลาว-จีน
ทั้งนี้ ได้ขอให้ทาง สปป.ลาว พิจารณาทบทวนระยะเวลาการขออนุญาตนำเข้า-ออก ยานพาหนะชั่วคราว ในรูปแบบของการท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าจาก 15 วันเป็น 30 วัน โดยทางรัฐมนตรีการค้าฯ ยินดีที่จะดำเนินการให้ไทยได้ตามคำขอ เพื่อร่วมกันผลักดันการค้าสองฝ่ายให้บรรลุเป้าหมายการค้า 11,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.6 แสนล้านบาท ภายในปี 2568
ขณะเดียวกัน การเร่งเจรจาจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework Agreement: DEFA) ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันให้มีคืบหน้าการเจรจาร้อยละ 50 ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนา MSME ของสปป.ลาว ให้เข้าถึง E-Commerce มากขึ้น ซึ่งจะเป็นช่องทางทำให้เพิ่มมูลค่าการค้าของสปป.ลาวได้ โดยไทยจะช่วยหยิบยกประเด็นให้สปป.ลาวร่วมสนับสนุนการเจรจา DEFA ด้วย
“ไทยยินดีให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือ สปป.ลาว ในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการฝุ่นควันข้ามแดนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการทำการเกษตรที่ยั่งยืน สำหรับสินค้าเกษตร สปป.ลาวขอให้ไทยรับซื้อสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร จะทำให้เศรษฐกิจของ สปป.ลาวขยายตัว ” นายพิชัย กล่าว
นอกจากนี้ ประเทศไทยและ สปป.ลาวจะมีการจัดประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ครั้งที่ 8 ซึ่งไทยยินดีที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งที่ 8 และขอให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมร่วมกันต่อไป
“ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จของสปป. ลาว ในเป็นประธานอาเซียนในปี 2567 โดยความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว มีการค้า การลงทุนพึ่งพากันและกันทั้งสองฝ่าย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของ สปป.ลาวติดต่อกันมาหลายปี ผมถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาเยือน สปป.ลาว ในครั้งนี้ ในการเข้ามาพบกับรัฐมนตรีการค้า เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันต่อไป” นายพิชัย ระบุ
ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ
