ดัชนีทองคำ ม.ค.68 ทิศทางบวก มองกรอบซื้อขาย 42,500- 44,500

  • ECONOMY
  • มกราคม 17, 2025

นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ม.ค.68 อยู่ที่ 68.31 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 1.10 จุด หรือ 1.63% จากเดือน ธ.ค.67 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 67.21 จุด โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ นโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ, นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED), ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และการอ่อนค่าของเงินบาท

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ระยะ 3 เดือนในไตรมาสแรกของปี 2568 อยู่ที่ 56.12 จุด ปรับลดลง 12.96 จุด หรือ 18.76% จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 69.08 จุด โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลง ได้แก่ ทิศทางนโยบายทางการเงินของ FED, การแข็งค่าของเงินบาท, กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ดอลลาร์, สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเชีย-ยูเครน เริ่มคลี่คลาย, นโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โดยคาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน ม.ค.68 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 360 ราย พบว่า มี 210 ราย หรือ 58% คาดว่าจะซื้อทองคำ ส่วนอีก 90 ราย หรือ 25% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำ และที่เหลือ 60 ราย หรือ 17% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่

ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเป็น 46% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ม.ค.68 จะเพิ่มขึ้น ส่วนอีก 4 ราย หรือ 31% คาดว่าจะลดลง และที่เหลืออีก 3 ราย หรือ 23% คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ธ.ค.67

สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน ม.ค.68 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้

– ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 2,590-2,708 ดอลลาร์/ออนซ์

– ราคาทองคำแท่งในประเทศ ความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 42,500- 44,500 บาท/บาททองคำ

ขณะที่ค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 34.03-35.16 บาท/ดอลลาร์

การลงทุนในเดือน ม.ค.68 ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยราคาทองยังพยายามสร้างฐานเพื่อรักษาระดับ แต่ยังไม่ปรากฏทิศทางที่ชัดเจนในระยะยาว แม้ว่าราคาจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นในบางช่วง แต่หากยังคงอยู่ในกรอบที่จำกัด และไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญได้ อาจเกิดแรงขายทำกำไร ที่ส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลงมาอีกครั้ง

โดยนักลงทุนควรติดตามปัจจัยสำคัญอย่างใกล้ชิด เช่น นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ทั้งนี้ การตัดสินใจลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดยังมีความไม่แน่นอนสูง ต้องอาศัยความระมัดระวัง และการประเมินข้อมูลอย่างรอบด้าน

ข้อมูล/ภาพ : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ , ไทยรัฐ

Related Posts

  • ECONOMY
  • มกราคม 22, 2025
  • 3 views
ก.พ. 68 เพิ่มสลากดิจิทัลอีก 1 ล้านใบ ให้ผู้ซื้อเข้าถึงราคาที่เป็นธรรม

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการส…

  • ECONOMY
  • มกราคม 22, 2025
  • 4 views
“ทรัมป์” พาสหรัฐถอนตัวจากความตกลงปารีส ทำกองทุนโลกสะดุด

เกิดอะไรขึ้นเมื่อ โดนัลด์ ทรัม…

You Missed

“ดีเอสไอ” อนุมัติให้ทำการสืบสวน “คดีแตงโม” ตกเรือแล้ว

  • มกราคม 22, 2025
  • 1 views
“ดีเอสไอ” อนุมัติให้ทำการสืบสวน “คดีแตงโม” ตกเรือแล้ว

หนุ่มขับชนไรเดอร์ได้ประกัน เมียรับศพ แกะมือที่กำแน่น บอกไม่ต้องแค้นเขาแล้ว

  • มกราคม 22, 2025
  • 5 views
หนุ่มขับชนไรเดอร์ได้ประกัน เมียรับศพ แกะมือที่กำแน่น บอกไม่ต้องแค้นเขาแล้ว

‘ซีเกท’ เผยรับอานิสงส์ ‘AI’ จากดีมานด์ ’สตอเรจ’ พุ่ง

  • มกราคม 22, 2025
  • 2 views
‘ซีเกท’ เผยรับอานิสงส์ ‘AI’ จากดีมานด์ ’สตอเรจ’ พุ่ง

5 ตลาดธุรกิจ LGBTQ ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้

  • มกราคม 22, 2025
  • 6 views
5 ตลาดธุรกิจ LGBTQ ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้

ศาลอาญาสั่งจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน ทนายเดชา หมิ่น”อาจารย์อ็อด”

  • มกราคม 22, 2025
  • 3 views
ศาลอาญาสั่งจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน ทนายเดชา หมิ่น”อาจารย์อ็อด”

ก.พ. 68 เพิ่มสลากดิจิทัลอีก 1 ล้านใบ ให้ผู้ซื้อเข้าถึงราคาที่เป็นธรรม

  • มกราคม 22, 2025
  • 3 views
ก.พ. 68 เพิ่มสลากดิจิทัลอีก 1 ล้านใบ ให้ผู้ซื้อเข้าถึงราคาที่เป็นธรรม