ปศุสัตว์ จ.สกลนคร เข้าแจ้งความหนุ่มทำร้าย บีบคอแมว ก่อนสั่งอายัดไว้ที่ รพ.สัตว์ จนกว่าศาลจะตัดสินสิทธิ์ในการครอบครองของคู่กรณีได้ ด้านสัตวแพทย์ยัน แมวทุกตัวมีสุขภาพจิตดี
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวีดีโอชายทำร้ายแมวโดยใช้มือบีบคอ จับทุ่มใส่พื้นและผนัง ทำให้มีคนเข้าไปแชร์เรื่องดังกล่าว และแสดงความคิดเห็นจำนวนมากถึงความโหดร้าย จากนั้นผู้โพสต์เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุคือแฟนที่เลิกรากัน ลงมือทำเพราะต้องการประชด และได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสกลนคร ต่อมาตำรวจได้นำหมายเรียกไปส่งให้นายแทนคุณ ผู้ก่อเหตุ ดังที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงสายของ วันนี้ (12 ธ.ค. 67) ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองสกลนคร เพื่อเอาผิดผู้ก่อเหตุในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ จากนั้นได้เดินทางไปอายัดแมวทั้ง 3 ตัวที่ผู้ก่อเหตุนำไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสัตว์บ้านอุ่นใจรักษาสัตว์ โดยเจ้าชาร์โคล ดัมมี่ และเต้าหู้ จะอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลบ้านอุ่นใจรักษาสัตว์ จนกว่าจะสามารถพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองได้ ซึ่งเป็นความเห็นร่วมกันกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย
ในส่วนของการตรวจสุขภาพแมวทั้ง 3 นั้น สัตวแพทย์หญิงอรวี บุญเสนา โรงพยาบาลบ้านอุ่นใจรักษาสัตว์ ได้แถลงผลการตรวจโดยละเอียด ดังนี้
- น้องชาร์โคลมีสภาพร่างกายทั่วไปปกติดี ค่าเอนไซม์ตับสูงกว่าปกติ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ
- น้องเต้าหู้ มีแผลเปิดที่บริเวณใต้คาง 0.5 ซม. รอยช้ำที่บริเวณใต้ลิ้น ผลตรวจเลือดมีค่าตับที่สูงกว่าปกติเช่นกัน
- น้องดัมมี่ มีอาการปวดช่วงเอวและหลัง และจากการเอ็กซเรย์ไม่พบการหักของกระดูก ผลตรวจเลือดมีค่าตับสูงกว่าปกติเช่นกัน
ทั้งนี้ บาดแผลและอาการบาดเจ็บดังกล่าวอาจเป็นผลจากการโดนทำร้ายตามที่ปรากฏในคลิปก็เป็นได้ แต่เป็นเพียงบาดแผลภายนอกไม่มีผลในระยะยาว และยืนยันว่าแมวทุกตัวมีสุขภาพจิตที่ดี กินอาหารได้ตามปกติ
ซึ่งหลังการแถลงของสัตวแพทย์แล้ว ผู้ก่อเหตุ ได้กล่าวขอโทษต่อทุกๆ คน ยอมรับว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบ และขอเอาหัวเป็นประกันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยพอใจข้อเสนอของปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร ที่ให้น้องแมวทั้ง 3 ตัวอยู่ที่บ้านอุ่นใจรักษาสัตว์จนกว่าจะสามารถพิสูจน์สิทธิ์ได้ และหากศาลตัดสินอย่างไรก็พร้อมยอมรับในคำตัดสินทุกประการ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และให้ปากคำพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนครทันที


ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ