เกิดเหตุ น้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล ศรีราชา จังหวัดชลบุรี บริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 หรือ SBM-2 ซึ่งเป็นจุดขนถ่ายน้ำมันของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โดยมีรายงานว่าน้ำมันดิบประมาณ 10,000 ลิตร หรือ 10 คิว รั่วจากเรือขนส่ง MT Phoenix Jamnagar สัญชาติสิงคโปร์ เนื่องจากคลื่นลมแรงและเหตุสุดวิสัยกลางทะเล แม้ระบบป้องกันการรั่วไหลทำงานตามที่ออกแบบไว้ แต่ยังมีคราบน้ำมันสีดำกระจายบนผิวน้ำในรัศมีประมาณ 10 ตารางเมตร ไทยออยล์ได้ดำเนินการตามแผนฉุกเฉิน พร้อมวางแนวบูมและฉีดสารสลายคราบน้ำมันทันทีเพื่อควบคุมสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ

วันที่ 6 มิถุนายน 2568 เวลา 06.05 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลศรีราชา จังหวัดชลบุรี จากบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล SBM-2 ซึ่งเป็นจุดขนถ่ายน้ำมันดิบของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.54 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน 2568 โดยมีน้ำมันรั่วไหลออกมาประมาณ 10,000 ลิตร จากเรือ MT Phoenix Jamnagar เรือบรรทุกน้ำมันดิบ (Crude Oil Tanker) สัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 ซึ่งจอดเทียบทุ่น SBM-2 เพื่อดำเนินการขนถ่ายน้ำมัน
ต้นเหตุของการรั่วไหลมาจากท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมต่อระหว่างเรือและทุ่นเกิดความเสียหาย เนื่องจากเผชิญกับคลื่นสูงและลมกระโชกแรงอย่างฉับพลัน ซึ่งระบบ Breakaway Coupling ของทุ่น SBM-2 ได้ทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสียหายจากแรงดึงของท่อเชื่อมต่อ โดยในช่วงที่วาล์วของระบบกำลังปิด มีน้ำมันดิบบางส่วนรั่วไหลลงสู่ทะเลในพื้นที่ประมาณ 10×10 เมตร หรือราว 10 ตารางเมตร ทางทิศใต้ของจุดเกิดเหตุ
ไทยออยล์ ระบุว่า ได้มีการวางแนวบูมป้องกันการแพร่กระจายของน้ำมันดิบไว้ล่วงหน้าตามมาตรการด้านความปลอดภัย ก่อนเริ่มกระบวนการขนถ่ายน้ำมันแล้ว อย่างไรก็ตาม คลื่นลมแรงในช่วงเกิดเหตุทำให้น้ำมันบางส่วนหลุดออกจากแนวบูม ทำให้เกิดคราบน้ำมันสีดำกระจายตัวบาง ๆ บนผิวน้ำทะเล
ภายหลังจากทราบเหตุ บริษัทฯ ได้ดำเนินการหยุดการขนถ่ายน้ำมันทันที พร้อมทั้งดำเนินมาตรการฉุกเฉินตามแผนรับมือของโรงกลั่นโดยการล้อมบูม 3 ชั้นรอบจุดเกิดเหตุ และฉีดน้ำยาเพื่อสลายคราบน้ำมัน
ขณะนี้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม ไม่มีรายงานการรั่วไหลเพิ่มเติม และระบบของทุ่น SBM-2 ไม่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมแต่อย่างใด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยทาง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชลบุรี และ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ร่วมกับฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทในการขจัดคราบน้ำมันอย่างต่อเนื่อง
การขจัดคราบน้ำมันในทะเลต้องใช้วิธีเฉพาะ ทั้งการล้อมคราบน้ำมันไม่ให้ขยายวงกว้าง การใช้สารชีวภาพ (bioremediation agents) และการใช้เรือเฉพาะทางดูดน้ำมันบนผิวน้ำ ขณะนี้ บริษัทฯ ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อควบคุมผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด และเตรียมรายงานผลการดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างโปร่งใสและต่อเนื่อง

ข้อมูล / ภาพ : bangkokbiznews