โคราชพบผู้เสียชีวิตจากโควิดพุ่ง ต้นเดือนมิ.ย.ดับแล้ว 8 ราย

ชุดกู้ภัยฮุก 31 โคราช เผยข้อมูลน่าตกใจ มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 8 รายตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2568 โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กวัยเพียง 4-5 ขวบ ขณะสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่เชื้อรวดเร็ว เตือนประชาชนอย่าประมาท หมั่นล้างมือ-ใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่จังหวัดนครราชสีมา ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 มูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 นครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์ล่าสุด พบว่าในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 8 ราย โดยที่น่าตกใจคือ มีเด็กอายุเพียง 4-5 ขวบรวมอยู่ด้วย ซึ่งสะท้อนถึงความรุนแรงของการแพร่ระบาดในกลุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก

นายชัยสิทธิ์ ภูผารัตน์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิฯ และผู้ดูแลโครงการ บ้านหลังสุดท้าย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 มูลนิธิได้ดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นไปอย่างเหมาะสมและปลอดภัย โดยมีทีมงานสวมชุด PPE เดินทางไปรับศพจากโรงพยาบาลหรือบ้านพัก เพื่อนำไปฌาปนกิจยังวัดที่รับเผาศพเฉพาะโควิด ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในจังหวัด

แม้ว่าปัจจุบันโควิด-19 จะถูกจัดให้เป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่จากข้อมูลภาคสนามของมูลนิธิพบว่า ประชาชนจำนวนมากยังคง ละเลยการป้องกัน โดยเฉพาะการล้างมือ การใส่หน้ากากในที่ชุมชน และการแยกตัวหากเริ่มมีอาการป่วย ส่งผลให้การแพร่ระบาดยังคงเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัว

สาเหตุที่อัตราการเสียชีวิตยังคงสูง ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของประชาชนที่ไม่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน แต่เลือกที่จะซื้อยารักษาเองหรือพบแพทย์เบื้องต้นแล้วกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้กับคนรอบข้าง

ขณะเดียวกัน สายพันธุ์ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ แม้จะไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนหน้าอย่างโอมิครอน แต่ก็มีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงมาก โดยมีอัตราการติดเชื้อในชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้ ยอดผู้เสียชีวิตในโคราชเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 5-6 ราย และเพียงแค่ช่วงต้นเดือนมิถุนายน ก็พบผู้เสียชีวิตแล้วถึง 8 ราย โดยล่าสุดในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ มีเพิ่มอีก 2 รายที่ ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ COVID-19 ต้องนำร่างไปฌาปนกิจ ซึ่งตอกย้ำว่าภารกิจของทีมงานยังไม่เบาลง และการเฝ้าระวังของภาคประชาชนยังจำเป็นอย่างยิ่ง

นายชัยสิทธิ์ ย้ำว่า ขอให้ประชาชนหันกลับมาใส่ใจสุขภาพขั้นพื้นฐานอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่เชื้อไวรัสยังคงแพร่ระบาดอย่างเงียบ ๆ ทั้งในชุมชน โรงเรียน และสถานพยาบาล การปฏิบัติตัวเช่น ใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่แออัด ล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการใช้ช้อนร่วมกัน คือมาตรการพื้นฐานที่สามารถลดความเสี่ยงได้จริง

ข้อมูล/ภาพ : thairath