แพทย์เตือนเด็กเล็กเสี่ยงโควิดช่วงเปิดเทอม แนะผู้ปกครองเฝ้าระวัง

กรมการแพทย์ เตือนผู้ปกครองทั่วประเทศให้เพิ่มความระมัดระวัง ในช่วงเปิดภาคเรียน หลังพบว่าเด็กเล็กโดยเฉพาะกลุ่มอายุต่ำกว่า 1 ปี และเด็กที่มีโรคประจำตัว มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ โควิด 19 แม้สายพันธุ์ปัจจุบันจะไม่รุนแรงเท่าในอดีต แต่ยังคงมีอาการไข้สูง ไอ หายใจลำบากที่ต้องเฝ้าระวัง โดย นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ แนะให้เด็กสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ และหากมีอาการผิดปกติควรหยุดเรียนและพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายและภาวะแทรกซ้อน

นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ช่วงเปิดภาคเรียนเป็นช่วงที่เด็กมีโอกาสเสี่ยงรับเชื้อไวรัส โควิด 19 มากขึ้น เนื่องจากการอยู่รวมกลุ่มในโรงเรียน โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 11 ปี และกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และเด็กที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด ภาวะไตวาย หรือภูมิคุ้มกันต่ำ

แม้อาการโดยรวมจะไม่รุนแรงเท่าในช่วงการระบาดใหญ่ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากเด็กบางรายอาจแสดงอาการไม่ชัดเจน หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่ผู้ปกครองมองข้าม อาการทั่วไปที่พบ ได้แก่ ไข้ ไอ จาม น้ำมูก เหนื่อย หอบ หายใจลำบาก ขณะที่บางรายอาจมีอาการอ่อนเพลีย ท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดเมื่อย ตาแดง ซึ่งหากมีอาการมากขึ้น เช่น ไข้สูงเกิน 39 องศา หอบเร็ว หน้าอกบุ๋ม ปากเขียว งอแง ซึม ไม่ยอมกินอาหาร หรืออาเจียนรุนแรง ควรรีบพาเด็กพบแพทย์โดยทันที

ในการดูแลรักษาเบื้องต้น เน้นการรักษาตามอาการ เช่น หากมีไข้ให้ใช้ยาลดไข้ หากมีไอให้ทานยาแก้ไอและจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ ส่วนกรณีมีน้ำมูกข้นเขียวในเด็กโตสามารถล้างจมูกด้วยน้ำเกลือได้ ทั้งนี้ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วไม่จำเป็นสำหรับเด็กทั่วไป เนื่องจากขนาดเครื่องไม่เหมาะสมกับนิ้วเด็ก และเชื้อไวรัสสายพันธุ์ปัจจุบันไม่ค่อยทำให้เกิดปอดบวม

อุปกรณ์ที่ผู้ปกครองควรเตรียมไว้ในกรณีลูกติดโควิด 19 ได้แก่ ปรอทวัดไข้ ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก ส่วนการสังเกตอาการยังคงเป็นหัวใจหลักของการดูแลเด็กที่ติดเชื้อ

เพื่อป้องกันการติดเชื้อในเด็ก ควรสอนให้เด็กล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร และให้เด็ก สวมหน้ากากอนามัย เมื่อไปโรงเรียน ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด เช่น การหอมแก้มเด็กเล็กโดยไม่จำเป็น เพราะอาจเป็นช่องทางในการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว

แม้สถานการณ์ของโรคจะดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ โควิด 19 ยังแพร่ระบาดต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่แออัด ดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรหมั่นดูแลสุขอนามัยทั่วไป และให้ลูกฉีดวัคซีนตามช่วงวัยให้ครบถ้วน เพื่อลดความรุนแรงของโรคหากติดเชื้อในอนาคต

ข้อมูล : pptvhd36