สถานการณ์หนี้ครัวเรือนพุ่งและเศรษฐกิจซบเซา ดันอัตราปฏิเสธสินเชื่อบ้านเกิน 50% โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ตลาดเช่าคอนโดปรับตัวแรง ทั้งอัตราเข้าพักและผลตอบแทนจากค่าเช่า (Rental Yield) เพิ่มสูงต่อเนื่อง สอดรับพฤติกรรมเปลี่ยนจากซื้อเป็นเช่า
ในช่วงปี 2566–2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยเผชิญความท้าทายจากอัตราปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Reject Rate) ที่พุ่งสูงเกินกว่า 50% โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อหดตัว ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนและภาระหนี้ครัวเรือนของคนไทยอยู่ในระดับสูง ทำให้แนวโน้มการเช่าที่อยู่อาศัยแทนการซื้อเติบโตต่อเนื่อง
สุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ในเครือออริจิ้น เปิดเผยว่า อัตราปฏิเสธสินเชื่อในปัจจุบันส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่หันมาพิจารณาทางเลือกการเช่าที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยในกลุ่ม First Jobber หรือผู้ที่เริ่มทำงานใหม่แม้ไม่มีประวัติเครดิต แต่กลับมีหนี้บัตรเครดิตสูง ส่งผลให้ กลุ่มผู้กู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปีมีอัตราถูกปฏิเสธสูงถึง 50% เมื่อเทียบกับ 30% เมื่อ 3–4 ปีก่อน
ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า มูลค่าสินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในปี 2566 อยู่ที่ 678,341 ล้านบาท ลดลง 2.8% ปี 2567 ลดลงเหลือ 587,344 ล้านบาท หรือ 13.4% และในปี 2568 คาดว่าจะลดลงเหลือ 585,301 ล้านบาท หรือลดลงอีก 0.3% สะท้อนแนวโน้มการซื้อที่อยู่อาศัยที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกลับช่วยเร่งการเติบโตของตลาดเช่าคอนโด โดยเฉพาะในโครงการที่มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ เช่นของ PRI ที่มีคอนโดปล่อยเช่าจำนวน 10 โครงการ รวมกว่า 1,500 ห้อง ซึ่งมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 80–85% และยังสร้างผลตอบแทนจากการเช่าอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อไม่นานมานี้
ปีณิตา ศิลปสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม PRI ระบุว่า แม้เหตุแผ่นดินไหวจะส่งผลให้ผู้เช่าบางราย เช่นในโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ยกเลิกสัญญาเช่าทันทีถึง 30% แต่บริษัทฯ ได้เร่งฟื้นความเชื่อมั่นโดยการซ่อมแซมห้องพัก ย้ายผู้เช่าไปยังห้องที่ไม่ได้รับผลกระทบ และจัดที่พักชั่วคราวให้ พร้อมลดค่าเช่า 10–15% เป็นเวลา 3 เดือนในช่วงที่ปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลาง
ผลกระทบในช่วงสั้นส่งผลให้ค่า Rental Yield ลดลงจากเดิม 5–6% เหลือ 4–5% แต่หลังการฟื้นฟูสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และแนวโน้มรายได้จากค่าเช่าคาดว่าจะทยอยกลับเข้าสู่ระดับเดิม
ทั้งนี้ เทรนด์การเช่าคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ปรับพฤติกรรมจาก “ซื้อเพื่อเป็นเจ้าของ” มาเป็น “เช่าเพื่อความยืดหยุ่น” เนื่องจากความไม่แน่นอนของรายได้ และภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงอายุยังน้อย
ข้อมูล : positioningmag