ทลายโกดังปลอมแบรนด์ดัง จับ 2 นายทุนจีน กลางสมุทรสาคร

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. นำโดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการทลายโกดังสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กลาง ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จับกุม นายเจียเซียน และ นายหาง สัญชาติจีน พร้อมของกลางกว่า 78,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 52 ล้านบาท หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำเข้าสินค้าปลอมจากจีนมาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศไทย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินและเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ บกปอศ โดยการนำของ <strong>พลตตทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์</strong> ผบกปอศ ร่วมกับ <strong>พตอวิจักขณ์ ตารมย์</strong> รอง ผบกปอศ <strong>พตอภูวเดช จุลกะเสวี</strong> ผกก1 บกปอศ และ <strong>พตทวิวัฒนชัย คลื่นแก้ว</strong> รอง ผกก1 บกปอศ พร้อมด้วย <strong>รตจักรา ยอดมณี</strong> รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และ <strong>นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์</strong> รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกันแถลงผลการจับกุม <strong>นายเจียเซียน MrJiaxian</strong> อายุ 27 ปี และ <strong>นายหาง MrHang</strong> อายุ 19 ปี ชาวจีนทั้งสองราย พร้อมของกลางเครื่องสำอาง อาหาร และสินค้าแบรนด์เนมละเมิดเครื่องหมายการค้า จำนวนรวม 78223 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า <strong>52307283 บาท</strong><br>ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากได้รับแจ้งจากเจ้าของแบรนด์และประชาชนว่าพบการจำหน่ายสินค้าปลอมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในไทย เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจนพบว่า สินค้าเหล่านี้นำเข้าจากประเทศจีน และถูกเก็บซุกซ่อนไว้ภายในโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตพันท้ายนรสิงห์ จสมุทรสาคร ซึ่งอยู่บริเวณชานเมือง เพื่อหลบเลี่ยงสายตาจากเจ้าหน้าที่และอำนวยความสะดวกต่อการกระจายสินค้า<br><strong>พตทวิวัฒนชัย คลื่นแก้ว</strong> เปิดเผยว่า หลังรวบรวมหลักฐาน เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร และเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบของกลางเป็นจำนวนมาก รวมถึงโทรศัพท์มือถือและเครื่องคอมพิวเตอร์รวม 12 เครื่อง ซึ่งจะถูกนำมาตรวจสอบเส้นทางการนำเข้าและเชื่อมโยงทางการเงินกับบัญชีผู้รับผลประโยชน์ เพื่อขยายผลไปยังเครือข่ายที่ใหญ่กว่า<br>จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ครอบครองและมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาในความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าปลอม หรือเลียนแบบ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก1 บกปอศ ดำเนินคดีตามกฎหมาย<br><strong>พลตตทัศน์ภูมิ</strong> กล่าวเพิ่มเติมว่า ปรากฏการณ์ของการแพร่ระบาดของสินค้าปลอม โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในไทย กำลังกลายเป็นปัญหาสาธารณสุขขนาดใหญ่ เนื่องจากมีการผสมสารต้องห้าม เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน และสเตียรอยด์ ซึ่งสามารถสร้างผลกระทบต่อผิวหนัง ระบบภายใน และส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ทั้งยังเพิ่มภาระให้ระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างต่อเนื่อง<br>ด้าน <strong>รตจักรา ยอดมณี</strong> รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การละเมิดเครื่องหมายการค้าไม่ได้กระทบเพียงแค่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยพบว่าเครือข่ายผู้อยู่เบื้องหลังมักเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่อาศัยช่องโหว่ของกฎหมายไทยในการดำเนินกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ปฏิบัติการในครั้งนี้จึงถือเป็นการยกระดับมาตรการด้านความมั่นคงควบคู่กับการปกป้องผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม

ข้อมูล/ภาพ : matichon