‘สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์’ หรือ ‘น้องลูกพีช’ วัย 28 ปี ผู้สมัคร สท.ธัญบุรี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา รับทราบ 4 ข้อหา หลังขับรถ BMW ปาดหน้าชนรถลุงป้าได้รับบาดเจ็บสาหัส บนถนนกาญจนาภิเษก วันที่ 17 เม.ย. เหตุการณ์เกิดเป็นกระแสหลังปรากฏคลิปแสดงพฤติกรรมอ้างตัวเป็นหลาน ผบ.ตร. ด้านตำรวจยืนยันดำเนินคดีตามพยานหลักฐานโดยไม่มีการแทรกแซง
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ความคืบหน้าคดีอุบัติเหตุที่กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล หลังเกิดเหตุ นายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช หลีนวรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ขับรถยนต์ BMW ป้ายแดง ปาดหน้ารถกระบะของคู่กรณี บริเวณถนนกาญจนาภิเษกสาย 9 กม.22 ช่วงบางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน ส่งผลให้ชายหญิงสูงวัยที่อยู่ในรถอีกคันได้รับบาดเจ็บ โดยฝ่ายชายบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนบันทึกวิดีโอไว้ได้ขณะผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมก้าวร้าวและแสดงตนว่าเป็นหลานของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมอ้างว่าพ่อเป็นผู้มีอิทธิพล
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา (สภ.ลำลูกกา) พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และ พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับ สภ.ลำลูกกา แถลงว่า นายสมิทธิพัฒน์ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อค่ำวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อรับทราบ 4 ข้อกล่าวหา ดังนี้
- ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส (กรณีชายสูงวัย)
- ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ (กรณีหญิงสูงวัย)
- ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น
- ทำให้เสียทรัพย์
เจ้าหน้าที่ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองจุด โดยจุดแรกเป็นพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจทางหลวง ส่วนจุดที่สอง ซึ่งเป็นบริเวณที่รถของผู้เสียหายถูกเฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บ เป็นคดีอาญาที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ลำลูกกา ซึ่งได้เริ่มสอบสวนตั้งแต่วันที่ 17-18 เมษายน ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบสภาพรถ BMW คันเกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ด้านท้าย และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบบริเวณหน้ารถในจุดชนจุดแรก
ด้านข้อสงสัยเกี่ยวกับ ป้ายแดงของรถ BMW ว่าเป็นของปลอมหรือไม่ และในประเด็นเรื่องใบขับขี่นั้น ทางตำรวจได้ประสานสำนักงานขนส่งจังหวัดเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบความผิดเพิ่มเติมจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง
ในประเด็นที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือในการพิมพ์ลายนิ้วมือและออกไปเล่นน้ำสงกรานต์หน้าสถานีตำรวจ ทางตำรวจยืนยันว่าไม่เป็นความจริง นายสมิทธิพัฒน์ได้ให้ความร่วมมือในการพิมพ์ลายนิ้วมือตามกระบวนการปกติ และไม่มีอาการมึนเมาในขณะเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
สำหรับข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่าย ความพยายามฆ่า หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งจากผู้เห็นเหตุการณ์โดยตรงและจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้
ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ยืนยันว่าได้รับคำสั่งโดยตรงจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ให้ดำเนินการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีการแทรกแซงหรือช่วยเหลือใดๆ และจะพิจารณาทุกประเด็นตามพยานหลักฐานที่มีอย่างรอบคอบ
ข้อมูล : naewna