เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 กรมราชทัณฑ์ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีข่าวลือที่เผยแพร่ในสื่อมวลชนเกี่ยวกับ “สมเด็จ” และ “ขบวนการหากินในคุก” โดยยืนยันว่าไม่มีการดำเนินการผิดระเบียบดังกล่าวในเรือนจำ พร้อมยืนยันการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
กรมราชทัณฑ์ชี้แจงข้อกล่าวหาขบวนการ “หากินกับคุก”
กรมราชทัณฑ์ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่ นายสิทธิกร ธงยศ สมาชิกวุฒิสภา ได้กล่าวหาว่ามีการดำเนินการทุจริตในเรือนจำ โดยอ้างถึง “ขบวนการหากินกับคุก” ซึ่งทำให้เกิดการไม่เท่าเทียมกันในเรือนจำ พร้อมกับการอ้างถึง “สมเด็จ” ผู้ต้องขังที่มีอิทธิพลในเรือนจำและเป็นมือไม้ให้กับเจ้าพนักงานที่ทุจริตในการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ต้องขังรายอื่น ๆ เช่น การฝากเงินเกิน 9,000 บาท หรือการนำเงินโอนผ่านบัญชีม้า
กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และการฝากเงินในบัญชีของผู้ต้องขังต้องปฏิบัติตามระเบียบ โดยเงินฝากจะไม่เกิน 15,000 บาท และการถอนเงินต้องไม่เกิน 500 บาทต่อวัน หากต้องการถอนเงินเกินจากนี้ต้องได้รับการอนุญาตจากผู้บัญชาการเรือนจำ
กรมราชทัณฑ์ปฏิเสธการมีอยู่ของ “สมเด็จ” และการดำเนินการทุจริตในเรือนจำ
กรณีที่กล่าวว่า “สมเด็จ” จัดให้มีการเล่นการพนันและสามารถใช้โทรศัพท์ในเรือนจำหรือออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าไม่มี “สมเด็จ” และไม่มีการให้สิทธิพิเศษดังกล่าวในเรือนจำ การตรวจสอบสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำถูกดำเนินการอย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการทุจริต
การย้ายผู้ต้องขังหรือการส่งตัวไปรักษาตัวนอกเรือนจำจะต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์และคณะทำงานอย่างละเอียด เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและเหตุผลที่เหมาะสม
มาตรการตรวจสอบและลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
กรมราชทัณฑ์เน้นย้ำถึงการปฏิบัติตามจริยธรรมและกฎระเบียบภายในกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำทุจริต เช่น การนำสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำ หรือการให้ผู้ต้องขังมีอิทธิพลในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ จะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและอาญา
ในส่วนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรมราชทัณฑ์จะดำเนินการอย่างรอบคอบ หากพบหลักฐานหรือมูลของการกระทำผิดจะดำเนินคดีในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหรือหลังการมาดำรงตำแหน่งของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ข้อมูล / ภาพ : thairath