“ดีเจแมน” แฉนักตบทรัพย์ เรียกรับเงินไกล่เกลี่ยคดี 7 ล้านบาท “ทนายเกิดผล” ชี้เอาผิดยาก คดีขาดอายุความเกิน 3 เดือน แนะหลักฐานสำคัญเอาผิดดิ้นไม่หลุด ย้ำที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐมีช่องโหว่ให้หากิน
หลังกลายเป็นประเด็น ชาวโซเชียลต่างตั้งข้อสังเกตถึงนักตบทรัพย์ ที่มีความใกล้ชิดกับภรรยาดีเจแมน และต่อมา “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ได้ออกมาบอกว่า ไม่เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งความสัมพันธ์กับใบเตย รักกันแบบพี่น้อง มีความหวังดีต่อกันเสมอ ถ้าผมทำแบบนั้นจริง คงไม่คบกับเตยมาถึงวันนี้
ท่ามกลางข้อสงสัยถึงนักตบทรัพย์ปริศนา ที่เกี่ยวโยงกับแวดวงบันเทิง ทางกฎหมาย “ทนายเกิดผล แก้วเกิด” ทนายความชื่อดัง วิเคราะห์กับทีมข่าวถึงกรณีดีเจแมนว่า ถ้าดีเจแมน เอาผิดนักตบทรัพย์ได้ ต้องมีคลิปเสียงสนทนา แต่ถ้าไม่มีคลิปเสียงก็ยากจะเอาผิดได้ เพราะความผิดยังถือว่ายังไม่สำเร็จ เนื่องจากยังไม่มีการรับเงินเกิดขึ้น ซึ่งยังอยู่ในขั้นการพยายามจะกระทำผิด

“ถ้าต้องการเอาผิดนักตบทรัพย์ ด้วยหลักฐานที่แน่นหนา ต้องมีคลิปเสียง ภาพวงจรปิด พยานบุคคล ยืนยันว่ามีการเรียกรับเงิน เช่นเดียวกับข้อความในไลน์ ต้องมีเนื้อหาที่ยืนยันชัดเจนถึงการขู่รีดเพื่อเรียกรับเงิน สิ่งสำคัญคือ ต้องมีการจ่ายเงินหรือโอนเงิน ถือว่าเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว หรืออีกข้อบ่งชี้ถือว่าเป็นการกระทำผิด หากมีการมาทวงเงิน ข่มขู่เพื่อเอาเงิน ถือว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท”
เงื่อนไขคดีหมดอายุเอาผิดยาก
ชาวโซเชียลมีการตั้งคำถามว่า หากมีการรีดไถจริงจากนักตบทรัพย์ ที่เคยกระทำการคล้ายกันมาแล้ว แต่ทำไมไม่สามารถเอาผิดได้ “ทนายเกิดผล” มองว่า ถ้าเป็นจริง ที่ผ่านมายังไม่มีใครเอาเรื่อง เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ประกอบกับความผิดฐานฉ้อโกงมีอายุความแค่ 3 เดือน ถ้าผู้เสียหายรู้อยู่แล้วว่ามีการพยายามเอาผิด แต่ไม่ไปแจ้งความภายใน 3 เดือน หลังจากที่ถูกข่มขู่เรียกรับ ผู้กระทำผิดก็รอด เช่นเดียวกับกรณีดีเจแมน ต่อให้ตอนนี้เอาหลักฐานมาแฉ แต่เอาผิดไม่ได้ เพราะอายุความขาดไปแล้ว
ที่ผ่านมา มีนักตบทรัพย์ เรียกรับเงินวิ่งเต้นคดี มีการกล่าวหาว่าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานราชการได้ แต่ยังไม่ค่อยเห็นเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาออกมาเอาผิดกับบุคคลนั้นว่าเป็นการแอบอ้าง จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานรัฐต้องกวาดล้างคนที่ทุจริตเรียกรับเงินในหน่วยงาน ต่อให้นักตบทรัพย์ที่อยู่นอกหน่วยงานถูกจับ แต่ไม่นานก็มีนักตบทรัพย์คนใหม่มาอีก เพราะมีราชการนอกรีตฝังตัวอยู่ในหน่วยงาน.

ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ