การขึ้นเป็นแนวหน้าการรีไซเคิลยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้จีนปฏิวัติ

จีนกำลังเป็นผู้นำในแนวทางใหม่ที่ก้าวล้ำสู่ความยั่งยืนของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของเทคโนโลยีสีเขียวทั่วโลก

ในฐานะตลาด EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศจีนกำลังเปลี่ยนสิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นขยะให้กลายเป็นโอกาสที่อาจสร้างมูลค่าถึงล้านล้านหยวน จุดเริ่มต้นอยู่ที่ไท่หยวน เมืองที่กำลังสร้างเวทีสำหรับการปฏิวัติการรีไซเคิลแบตเตอรี่ขนาดใหญ่

รัฐบาลจีนได้กำหนดนโยบายเชิงรุกที่กำหนดให้เปลี่ยนแท็กซี่ไฟฟ้าทุกแปดปี เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม ภายในปี 2020 จีนมีแท็กซี่ไฟฟ้ากว่า 132,000 คัน และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างทวีคูณในศักยภาพการรีไซเคิลแบตเตอรี่

การเติบโตของตลาดที่คาดการณ์ไว้นั้นน่าทึ่งมาก ศูนย์วิจัยและเทคโนโลยียานยนต์แห่งประเทศจีนคาดการณ์ว่าแบตเตอรี่ EV ที่หมดอายุการใช้งานจะเพิ่มขึ้นจาก 294,000 ตันในปี 2021 เป็น 1.2 ล้านตันในปี 2025 และภายในปี 2030 ปริมาณนี้อาจแตะ 3 ล้านตันต่อปี ซึ่งแสดงถึงตลาดที่มีมูลค่า 1.5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์)

สมบัติที่แท้จริงอยู่ในวัสดุแบตเตอรี่ แต่ละแบตเตอรี่ EV มีแร่ธาตุที่มีมูลค่าสูงถึง $1,700 รวมถึงองค์ประกอบสำคัญอย่างลิเธียม โคบอลต์ และนิกเกิล ยิ่งไปกว่านั้น จีนคาดว่าจะเป็นประเทศแรกที่สามารถตอบสนองความต้องการวัสดุแบตเตอรี่ทั้งหมดในประเทศได้ด้วยการรีไซเคิล

แม้จะมีแนวโน้มที่สดใส แต่ก็ยังมีความท้าทายที่สำคัญ จนถึงเมื่อไม่นานมานี้ มีเพียงไม่ถึง 25% ของแบตเตอรี่ EV ที่หมดอายุถูกนำมารีไซเคิลแบบได้รับการควบคุมอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน โรงงานนอกระบบก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นของกรอบการกำกับดูแลที่ครอบคลุม

ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Alicia García Herrero จาก Bruegel เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับกฎระเบียบที่แข็งแกร่ง การรีไซเคิลแบตเตอรี่ไม่ใช่แค่กระบวนการอุตสาหกรรม แต่เป็นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่สำคัญซึ่งต้องการการจัดการอย่างรอบคอบ

กลยุทธ์การรีไซเคิลแบตเตอรี่ของจีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในประเทศ เมื่อประเทศต่างๆ ทั่วโลกเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า พวกเขาจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่คล้ายกัน สหรัฐอเมริกา ตัวอย่างเช่น กำลังตอบสนองด้วยนโยบาย Inflation Reduction Act ซึ่งให้สิ่งจูงใจสำหรับการรีไซเคิลแบตเตอรี่ในประเทศ

ภายในปี 2030 สหรัฐฯ คาดว่าจะพัฒนาขีดความสามารถในการรีไซเคิลแบตเตอรี่ได้มากกว่า 652,293 ตันต่อปี แสดงให้เห็นถึงความสำคัญระดับโลกของแนวทางบุกเบิกของจีน

จีนไม่ได้เพียงแค่รีไซเคิลแบตเตอรี่ แต่กำลังสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ ด้วยการผสานนโยบายเชิงรุก นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการลงทุน จึงสามารถพูดได้ว่าประเทศจีนกำลังวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้นำในแนวหน้าของการปฏิวัติเทคโนโลยีสีเขียว