ดีเดย์ 30 เม.ย. ลงทะเบียน “ชื่อบัญชีตรงเบอร์โทร” ก่อนถูกระงับ Mobile Banking

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เตือนผู้ใช้งานแอปฯ Mobile Banking ที่ได้รับการแจ้งเตือน ให้เร่งดำเนินการยืนยัน “ชื่อบัญชีตรงกับเบอร์โทรศัพท์” ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 เพื่อป้องกันการระงับการใช้งาน Mobile Banking ตามมาตรการยกระดับความปลอดภัย โดยความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญในการป้องกันช่องทางอาชญากรรมออนไลน์ที่อาจเกิดขึ้นผ่านบริการทางการเงินบนมือถือ

ภายใต้มาตรการ “การยกระดับความปลอดภัยในการใช้ Mobile Banking” ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นั้น ผู้ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องยืนยันตัวตน จะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ Mobile Banking โดยตรง ทั้งนี้ผู้ใช้บริการกลุ่มดังกล่าว ต้องดำเนินการภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 มิเช่นนั้นจะถูกระงับการใช้งานระบบ Mobile Banking ชั่วคราว เพื่อรอการยืนยันตัวตนที่ถูกต้อง

กระบวนการตรวจสอบแบ่งเป็นหลายขั้นตอน โดย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (โอเปอร์เรเตอร์) ในการตรวจสอบข้อมูลเบอร์โทรศัพท์และชื่อบัญชีผู้ใช้ Mobile Banking ว่าตรงกันหรือไม่ ผลการตรวจสอบจะแบ่งผู้ใช้บริการออกเป็น 3 สถานะ คือ สถานะ Y (ข้อมูลตรงกัน), P (ไม่พบข้อมูลการลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์) และ N (ข้อมูลไม่ตรงกับผู้ใช้ Mobile Banking)

ผู้ใช้ที่อยู่ในสถานะ P และ N จะได้รับแจ้งให้ปรับปรุงข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในกำหนด หากยังไม่ดำเนินการ อาจถูกระงับการใช้ Mobile Banking หลังวันที่ 30 เมษายน 2568 สำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่ได้รับแจ้งเตือนผ่านแอปฯ Mobile Banking ไม่ต้องดำเนินการใด ๆ และสามารถใช้งานตามปกติได้

กลุ่มที่ต้องเร่งดำเนินการมี 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ใช้งาน Mobile Banking ตั้งแต่ปี 2565 ที่ไม่พบชื่อเจ้าของซิมตรงกับเบอร์ที่ใช้ และกลุ่มชาวต่างชาติที่มีเบอร์โทรศัพท์ไม่ตรงกับข้อมูลการเปิดบัญชี Mobile Banking

หลังครบกำหนดวันที่ 30 เมษายน 2568 ขั้นตอนในระยะที่สองจะเริ่มต้นขึ้น โดยธนาคารจะส่งข้อมูลผู้ใช้ Mobile Banking ปัจจุบันให้โอเปอร์เรเตอร์ผ่านระบบของปปง. เพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ทั้งนี้คาดว่าจะมีการตรวจสอบข้อมูลกว่า 2.5 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะต้องแล้วเสร็จภายในปลายเดือนพฤษภาคม 2568

สำหรับลูกค้าที่ไปดำเนินการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือปรับปรุงข้อมูลกับธนาคาร หากตรวจสอบแล้วว่าข้อมูลตรงกัน จะถือว่ากระบวนการเสร็จสมบูรณ์ แต่หากลูกค้ากลุ่มสถานะ P หรือ N ไม่ดำเนินการใด ๆ จะถูกระงับการใช้งาน Mobile Banking จนกว่าจะดำเนินการอัปเดตข้อมูลให้ถูกต้องตามข้อกำหนด

นายประเสริฐ ย้ำว่า การยืนยัน “ชื่อบัญชีตรงกับเบอร์โทร” เป็นมาตรการสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพใช้ช่องทาง Mobile Banking ในการกระทำความผิด โดยขอให้ผู้ใช้ที่ได้รับการแจ้งเตือน เร่งยืนยันตัวตนโดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ข้อมูล : bangkokbiznews