จีนเตรียมขยายการศึกษาปริญญาตรีในสาขา AI และเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านนวัตกรรม

มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งในประเทศจีนประกาศแผนการขยายจำนวนนักศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศในด้านนวัตกรรม การขยายตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่จีนเปิดตัวหลักสูตร AI ตามโครงการของสตาร์ทอัพ DeepSeek ซึ่งได้สร้างความสนใจทั้งในและต่างประเทศ

นักศึกษาปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยจีน

มหาวิทยาลัยในจีนหลายแห่งได้เปิดเผยแผนการขยายจำนวนนักศึกษาปริญญาตรีในสาขาวิชาเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์คลินิก ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว มหาวิทยาลัยปักกิ่งได้ประกาศจะเพิ่มจำนวนนักศึกษาปริญญาตรี 150 คน ในปี 2568 เพื่อให้ความสำคัญกับสาขาวิชาที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยีขั้นสูง

การขยายขีดความสามารถด้าน AI ผ่านการศึกษาในจีน

ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยในจีนได้เปิดตัวหลักสูตรปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีการสนับสนุนจากโครงการ AI ของสตาร์ทอัพ DeepSeek ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวสำคัญในยุค “Sputnik moment” สำหรับจีน ด้วยการสร้างเทคโนโลยี AI ที่มีความสามารถเทียบเท่ากับสหรัฐฯ แต่ใช้ต้นทุนเพียงเศษเสี้ยว ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนที่แข็งแกร่งของรัฐบาลจีนในการสร้างบุคลากรในด้าน STEM (Science, Technology, Engineering, and Mathematics)

การเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาด้าน AI ในระดับโรงเรียน

แผนการขยายการศึกษาด้าน AI ในจีนยังครอบคลุมถึงระดับโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษา ซึ่งจีนจะเริ่มมีการศึกษาด้าน AI เพื่อปลูกฝังความคิดสร้างสรรค์และทักษะดิจิทัลให้กับนักเรียนในวัยเยาว์ การพัฒนาทักษะเหล่านี้ตั้งแต่ระดับโรงเรียนถือเป็นส่วนสำคัญในการเตรียมพร้อมบุคลากรที่มีความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล

แผนพัฒนาการศึกษาของจีนภายในปี 2035

จีนได้กำหนดแผนการปฏิบัติการระดับชาติในด้านการศึกษา โดยมุ่งเน้นที่จะสร้าง “ชาติที่มีการศึกษาเข้มแข็ง” ภายในปี 2035 ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรม การสร้างบุคลากรที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก โดยการขยายการศึกษาในด้าน AI และเทคโนโลยีใหม่จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งนี้

ข้อมูล/ภาพ : reuters