OpenAI เปิดตัว GPT-4.5 ให้ผู้ใช้ระดับ Pro ได้ทดลองก่อน

บริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ประกาศเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ล่าสุด GPT-4.5 โดยเริ่มเปิดให้บริการเฉพาะผู้ใช้ระดับ Pro และนักพัฒนาทั่วโลกก่อนเป็นกลุ่มแรก เพื่อทดลองความสามารถและตรวจสอบเสถียรภาพก่อนการเปิดตัวในวงกว้าง

ตามรายงานของ สำนักข่าวรอยเตอร์ โมเดล GPT-4.5 ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งด้านการจดจำรูปแบบ การสร้างสรรค์เนื้อหาโดยไม่ต้องใช้เหตุผลซับซ้อน และความเข้าใจในอารมณ์ของมนุษย์ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่ OpenAI ตั้งเป้าปรับปรุงจากเวอร์ชันก่อนหน้า

การเปิดใช้งานตามลำดับขั้น เริ่มจากกลุ่ม Plus และองค์กร

OpenAI ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ไมโครซอฟท์ (Microsoft) วางแผนขยายการให้บริการ GPT-4.5 เป็นลำดับ โดยผู้ใช้ระดับ ChatGPT Plus และ Team จะสามารถเข้าถึงโมเดลใหม่ได้ในสัปดาห์หน้า ตามด้วย ลูกค้าองค์กร (Enterprise) และ สถาบันการศึกษา (Edu) ในสัปดาห์ถัดไป

แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI อธิบายว่าการทยอยเปิดให้บริการเป็นผลจากข้อจำกัดด้านกำลังประมวลผลของ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ซึ่งจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนก่อนที่จะสามารถรองรับผู้ใช้ในวงกว้างได้

“เราจะเพิ่ม GPU อีกหลายหมื่นตัวในสัปดาห์หน้า… นี่ไม่ใช่แนวทางที่เราต้องการ แต่การเติบโตแบบก้าวกระโดดทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลน GPU ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก” อัลท์แมนโพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (Twitter)

ลดปัญหา AI “หลอน” อัตราคลาดเคลื่อนต่ำกว่าเวอร์ชันก่อนหน้า

จุดเด่นสำคัญของ GPT-4.5 คือการลดอัตราการเกิด “Hallucination” หรือการสร้างข้อมูลที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ในโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดย OpenAI เปิดเผยว่า GPT-4.5 มีอัตรา Hallucination เพียง 37.1% ซึ่งลดลงจาก 61.8% ของ GPT-4o และ 44% ของรุ่น o1

แม้ GPT-4.5 จะสามารถรองรับการอัปโหลดไฟล์และรูปภาพ รวมถึงช่วยในการเขียนเนื้อหาและโค้ดได้ แต่ยังไม่รองรับ การสื่อสารด้วยเสียงและวิดีโอ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและคาดว่าจะเปิดตัวในอนาคต

อนาคตของ GPT-4.5 และการพัฒนาต่อเนื่องของ OpenAI

OpenAI มีเป้าหมายที่จะพัฒนาโมเดลภาษาให้มีความแม่นยำสูงขึ้น พร้อมกับลดข้อผิดพลาดในการสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานระดับองค์กรและนักพัฒนาต่างจับตามองความสามารถของ GPT-4.5 ว่าจะสามารถพลิกโฉมการใช้ AI ในภาคธุรกิจและงานสร้างสรรค์ได้มากน้อยเพียงใด

ข้อมูล/ภาพ : สำนักข่าวอินโฟเควสท์