อนุทิน ชี้เพื่อไทยดันกฎหมาย ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ควรหารือพรรคร่วม ก่อนเข้า ‘ครม.-สภา’ ย้ำจุดยืนเดิม 4 ข้อ-เผยยังไม่เห็นข้อมูลแก้สัญญา 3 สนามบิน หลัง ‘สกพอ.’ จ่อชง ครม.อนุมัติ 29 ต.ค.นี้ ย้ำรัฐต้องไม่เสียประโยชน์
วันที่ 24 ตุลาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เตรียมนำผลการศึกษาร่างกฎหมายเปิดสถานบันเทิงครบวงจรเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้า ครม. ภายในปีนี้ จะต้องมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหรือไม่ ว่า ทุกอย่างต้องมีการพูดคุย ทุกคน ก็ต้องผลักดันงานของตัวเองอย่างเต็มที่ และอะไรที่ต้องใช้ ครม. และสภา ก็ต้องหารือกัน ถือเป็นเรื่องการทำงานตามปกติอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หากจะต้องมีการผลักดันกฎหมายในเรื่องนี้ ต้องยึดแนวทาง 4 ข้อ ที่พรรคภูมิใจไทย ออกมาแถลงก่อนหน้านี้หรือไม่ นายอนุทินย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยมีแนวทางเรื่องนี้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 4 จุดยืนของพรรคภูมิใจไทย เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมาย “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” โดยขณะนั้น นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แถลงจุดยืนวันที่ 13 ส.ค. 67 จำนวน 4 ข้อ ดังนี้ 1.พ.ร.บ.ฉบับนี้จะไม่แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และอาจทำให้มีการพนันทั้งบนดินและใต้ดินจนเกิดปัญหา
2.เรื่องผลประโยชน์ต่อรัฐ และประชาชน เรายังรู้สึกว่ายังไม่มีความชัดเจนมากพอที่จะลงทุนทำเรื่องแบบนี้ 3.ผลกระทบต่อการขับเคลื่อนกระตุ้นท่องเที่ยว ซึ่งเราไม่มั่นใจว่ากาสิโนจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้
และ 4.เท่าที่ดูยังไม่เห็นมาตราไหนของร่างกฎหมายดังกล่าว ระบุเรื่องการช่วยเหลือแรงงานชาวไทยในการจ้างงาน ซึ่งเชื่อว่าพรรคร่วมอื่น ๆ คงมีความเห็นเช่นกัน และหวังว่ารัฐบาลจะนำประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ไปพิจารณา
ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ที่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง เป็นประธาน เห็นชอบให้แก้ไขสัญญา 5 ประเด็น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงิน 117,226 ล้านบาท ที่ นายจุฬา สุขมานะ เลขาธิการ สกพอ. ระบุว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันที่ 29 ต.ค.นี้นั้น
นายอนุทิน กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ตนยังไม่เห็นเรื่อง แต่เรื่องนี้ต้องขอฟังเหตุและผล ว่าทำไมถึงนำไปสู่การแก้ไขสัญญา เพราะเรื่องนี้คนรับผิดชอบคือ สกพอ. กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนยังไม่เห็นเรื่องขอให้ส่งข้อมูลมา ซึ่งขอยึดหลักการ อะไรที่เป็นประโยชน์ เราไม่มีปัญหา แต่ต้องขอดูข้อมูล ว่าสุดท้ายประโยชน์ตกอยู่ใคร อย่างไร และที่สำคัญที่สุด รัฐต้องไม่เสียประโยชน์ ซึ่งถือเป็นหลักการในการทำสัญญากับรัฐบาลไทยอยู่แล้ว
ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติ