คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ ประชาชาติ
รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ทำหน้าที่บริหารประเทศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน
แต่ผ่านไปไม่ถึงเดือน ม็อบทั้งขาประจำ-ไม่ประจำ ไม่ปล่อยให้รัฐบาลทำงานหน้าที่ไปนาน ประกาศเตรียมลงถนนขับไล่ (อีกรอบ)
การประกาศปลุกม็อบไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับความรู้สึกของบรรดาเสนาธิการการเมืองในทำเนียบรัฐบาล
มีการประเมินว่า ม็อบจะอยู่นาน-ไม่นาน ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือ รัฐบาลเพื่อไทย อย่าทำปืนลั่น จุดชนวนสั่นบัลลังก์อำนาจตัวเอง
คนในรัฐบาลรู้ดีว่าอะไรคือ “ชนวน” ทำให้ม็อบจุดติด อะไรคือของร้อน ไม่ควรแตะโดยเฉพาะช่วงที่รัฐบาลเหลือเวลาทำงาน 2 ปีเศษ ถ้าเดินเกมไม่ระวังโอกาสพลาดท่า พังทั้งกระดานมีสูง
บทเรียนในอดีตมีให้เห็น
เพราะการเมืองไทย จ้องทำลายล้างกันทางการเมือง แย่งชิงอำนาจ-งบฯ-เงิน เพื่อการเมืองกลุ่ม ก๊วน มากกว่าประสานประโยชน์เพื่อประเทศ
จึงเห็นปฏิบัติการ นิติสงคราม นักร้องยื่นฟ้องรัฐบาลเป็นว่าเล่น ทั้งที่ก่อนหน้านี้การยื่นร้องทางการเมือง ถึงขั้นทำนายกฯร่วงหล่นจากตำแหน่งไปแล้ว 1 คน ประเทศชะงักไปร่วมเดือนกว่าจะตั้งรัฐบาลใหม่ มีนายกฯคนใหม่
จึงเห็นความพยายาม การเตรียมความพร้อมปลุกม็อบไล่รัฐบาล
การเมืองวนลูปอยู่อย่างนี้มาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงตอนนี้ปี 2567 ยังอยู่ที่เดิม
ทั้งที่บริบททั้งเศรษฐกิจ การเมือง ระหว่างประเทศแข่งขันกันอย่างดุเดือด
การเมืองในประเทศยังไม่ร่วมมือกันพาประเทศพ้นวิกฤต
วันก่อน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดทำเนียบรัฐบาล รับการมาเยือนของระดับบิ๊กของ Google ที่ประกาศการลงทุนในไทย 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.6 หมื่นล้านบาท สร้าง Data Center และ Cloud Region ในประเทศไทย
ตั้งชื่อธีมว่า Leave no Thai Behind
ขณะที่รัฐบาลคาดหวังว่า Google จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว
หันมาดูการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่รั้วติดกับไทยอย่างมาเลเซีย ที่ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี
ซึ่งข้อดีของมาเลเซียที่มีแต้มต่อไทย 1 อย่าง อาจเพราะมาเลเซียมองการณ์ไกลตั้งแต่ 50 ปีที่แล้ว ดึงการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรม Semiconductor ซึ่งมีผู้ลงทุนระดับโลก อย่าง intel ตั้งฐานการผลิต
แต่ในปัจจุบันเมื่อ ชิป กลายเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมยุคใหม่ มาเลเซียมีนโยบายชัดเจน ทุ่มทั้งเงิน พัฒนาทั้งคน สร้างห่วงโซ่การผลิตทั้งระบบ
ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาคือ การเปิด Malaysia Semiconductor Accelerator & IC Design Park : Selangor Hub ที่สลังงอร์ เป็นศูนย์การออกแบบชิป จากตอนนี้เป็นแค่ “รับจ้างผลิต” แต่ต่อไปจะเป็น “ผลิตโดยมาเลเซีย” ตั้งแต่ต้นจนจบ
ขณะเดียวกัน มาเลเซีย มีแผนขยายบุคลากรจากรั้วมหาวิทยาลัย ที่ปัจจุบันผลิตวิศวกรป้อนในอุตสาหกรรมดังกล่าวปีละ 5 พันคน เป็นปีละ 5 หมื่นคน เพราะมองเห็นแล้วว่านี่คืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่นเดียวกับ Data Center ที่ในอนาคตตั้งเป้าว่า จะออกแบบโดยมาเลเซีย สร้างโดยมาเลเซีย และปฏิบัติงานโดยคนมาเลเซีย อีกไม่นานมาเลเซียจะก้าวไปเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
กลับมาดูที่ประเทศไทย การเมืองช่างวนลูป ตั้งรัฐบาล ไล่รัฐบาล ล้มรัฐบาล ชิงอำนาจไป-มา มีแผนพัฒนาประเทศสารพัดแผน แต่ไม่ได้ทำ
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ประเทศไทย ถูก Leave Behind แน่นอน
ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติ