เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานได้ออกหนังสือด่วนที่สุดให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ ซึ่งดำเนินการด้วยวิธีพิเศษ โดยรัฐมนตรีพลังงานชี้ว่าการจัดจ้างในลักษณะนี้ไม่จำเป็นเร่งด่วนตามสถานการณ์ และควรจะดำเนินการเปิดประมูลตามปกติ แต่ก็ยังไม่กล้าสั่งยกเลิกการดำเนินการ
การจัดจ้างที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ฉุกเฉิน
การจัดจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะของ กฟผ. เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้เลื่อนแผนการปลดเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนแม่เมาะ เครื่องที่ 8-11 ออกไปจนถึงปี 2568 เนื่องจากสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการขาดแคลนก๊าซ LNG ที่ส่งผลต่อการผลิตไฟฟ้าในประเทศ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป สถานการณ์ฉุกเฉินที่ กฟผ. เคยอ้างถึงไม่เกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ความจำเป็นในการจัดจ้างถ่านหินแบบพิเศษนี้ไม่มีความเร่งด่วนอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่า กฟผ. ยังมีสต๊อกสำรองถ่านหินในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ
การดำเนินการตามปกติควรเป็นทางเลือก
การว่าจ้างชุดขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะสามารถดำเนินการได้โดยการเปิดประมูลตามปกติ ซึ่ง กฟผ. มีสายงานที่รับผิดชอบในส่วนนี้อยู่แล้ว จึงสามารถวางแผนการจัดหาบริการได้ล่วงหน้า โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษในการดำเนินการ
แม้ว่ากฟผ. จะอ้างถึงสถานการณ์ฉุกเฉินจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนในการจัดจ้างแบบพิเศษ แต่เมื่อสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบตามที่คาดการณ์ไว้ การปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดจ้างให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ความไม่ชัดเจนในการจัดซื้อจัดจ้าง
ถึงแม้ว่าจะมีข้อโต้แย้งจากผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ กฟผ. ใช้ในกรณีนี้ แต่คณะกรรมการกระทรวงพลังงานก็พบว่า กฟผ. ยังมีข้อบกพร่องในด้านการดำเนินการทางกฎหมายและระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ชัดเจนหลายประการ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการและความไม่แน่ใจในกระบวนการจัดจ้าง
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจึงได้แนะนำให้ กฟผ. ปรับการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและมีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ข้อมูล / ภาพ : thansettakij