กฎหมายการพนันและ Entertainment Complex จะเข้าสู่ ครม. หรือไม่?
ร่าง พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) และ พระราชบัญญัติ Entertainment Complex กลายเป็นหัวข้อร้อนแรงที่ถูกจับตามองในแวดวงการเมืองและสังคม โดยทั้งสองร่างกฎหมายนี้มีความสำคัญต่อแนวทางการควบคุมการพนันในประเทศไทย ล่าสุด อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายการพนันได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่มีการเลื่อนพิจารณาจากวันที่ 25 กุมภาพันธ์ออกไปเป็นสัปดาห์นี้ ซึ่งต้องรอดูว่าที่ประชุม ครม. วันที่ 3 มีนาคมจะบรรจุเรื่องนี้ไว้ในระเบียบวาระหรือไม่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย เช้าวันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 โดยพยายามเลี่ยงตอบคำถามที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางของร่างกฎหมายนี้ โดยกล่าวเพียงว่า “กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและเสนอแนวทางที่เหมาะสม แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับที่ประชุม ครม. และนายกรัฐมนตรี” คำตอบดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่าเป็นการโยนความรับผิดชอบไปให้ผู้อื่นโดยไม่แสดงจุดยืนที่ชัดเจนของตัวเอง
ร่าง พ.ร.บ. การพนัน: มาตรการเข้มข้น ปราบปรามบ่อนเถื่อน หรือเพียงแค่ภาพลวงตา?
ร่าง พ.ร.บ. การพนัน (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) มีการเสนอเพิ่มโทษสำหรับผู้ดำเนินการบ่อนเถื่อนอย่างเข้มข้น โดยกำหนดให้เจ้ามือมีโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี และมีมาตรการ ยึดทรัพย์สิน ผู้เล่นที่เข้าร่วมการพนันเถื่อนจะต้องรับโทษจำคุก 1 ปี โดยไม่มีโอกาสรอลงอาญา อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การเพิ่มบทลงโทษเหล่านี้อาจเป็นเพียงเครื่องมือประชาสัมพันธ์ทางการเมือง มากกว่าที่จะมีผลบังคับใช้จริง เนื่องจากการพนันผิดกฎหมายในไทยยังคงแพร่หลายอย่างกว้างขวาง
อนุทิน ชาญวีรกูล ยืนยันว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายฉบับนี้อยู่ที่ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องรอการพิจารณาจากนายกรัฐมนตรีเพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าที่ประชุม ครม. วันที่ 3 มีนาคมนี้จะมีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความลังเลของรัฐบาลเอง
Entertainment Complex: นโยบายเพื่อใคร? นักท่องเที่ยวหรือกลุ่มทุน?
อีกหนึ่งร่างกฎหมายที่ถูกจับตามองคือ ร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวครบวงจร โดยจะมีพื้นที่สำหรับคาสิโนไม่เกิน 10% ของโครงการทั้งหมด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ในร่างกฎหมายที่ปรับแก้ล่าสุดโดยคณะกรรมการกฤษฎีกา มีการเพิ่มมาตรการ ควบคุมเข้มข้น สำหรับนักพนันชาวไทยที่ต้องการเข้าร่วมในคาสิโน
ตามข้อกำหนดใหม่ บุคคลสัญชาติไทยที่ต้องการเข้าใช้บริการคาสิโนใน Entertainment Complex จะต้อง:
- ลงทะเบียนเป็นผู้เล่น
- จ่ายค่าเข้า 5,000 บาทต่อครั้ง
- มีเงินฝากในธนาคารไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท และต้องคงอยู่ในบัญชีอย่างน้อย 6 เดือน
มาตรการดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการ “ไล่แขก” ที่แท้จริง ซึ่งอาจผลักดันให้คนไทยไปใช้บริการคาสิโนในประเทศเพื่อนบ้านแทน ส่งผลให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสในการควบคุมอุตสาหกรรมการพนันที่กำลังเติบโต การกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูงจนน่าเหลือเชื่อนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า รัฐบาลกำลังปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน หรือเปิดทางให้กลุ่มทุนรายใหญ่ได้ประโยชน์จากกฎหมายนี้กันแน่?
ทิศทางของร่างกฎหมาย: อนาคตอยู่ที่ ครม. และสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งสองร่างกฎหมายนี้ยังต้องผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอน หาก ครม. มีมติเห็นชอบ ก็จะถูกส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาในวาระถัดไป โดยอาจมีการปรับแก้เพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล จะมีผลต่อแนวทางของกฎหมายนี้อย่างมาก และเป็นที่แน่ชัดว่าฝ่ายต่างๆ ในรัฐบาลยังมีท่าทีที่ไม่เป็นเอกภาพเกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้
จับตาการประชุม ครม. วันที่ 3 มีนาคม กับคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ
ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ นักการเมือง หรือประชาชนทั่วไป คำถามสำคัญคือ ที่ประชุม ครม. วันที่ 3 มีนาคมนี้จะบรรจุร่างกฎหมายเข้าสู่ระเบียบวาระหรือไม่? หรือจะเป็นเพียงแค่การเล่นเกมการเมืองที่ยืดเยื้อเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง? การดำเนินนโยบายที่ขาดความโปร่งใสเช่นนี้อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และอาจทำให้การผลักดัน Entertainment Complex ต้องเผชิญกับแรงต้านมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
