“นายกฯ อิ๊งค์” ถึงนราธิวาส สวมสูทชมพูสีบานเย็นลายนรารวมใจ ย้ำ ปีนี้เป็นปีแห่งโอกาส กำชับเร่งโครงสร้างพื้นฐานอย่าล่าช้า หยอดหวาน รัฐบาลหนุนแก้ปัญหาให้ชาวใต้เต็มที่
วันที่ 16 มกราคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานนราธิวาส เมื่อเวลา 11.25 น. โดยสวมเสื้อสูทสีชมพูบานเย็น ลายผ้านรารวมใจ เป็นผ้าลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดนราธิวาส ผลิตจากกลุ่มนาราบาติก ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ร่วมคณะเดินทางมาด้วย สวมเสื้อสีฟ้าเขียวลายนรารวมใจ จากนั้นเวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อพบปะนักศึกษาและผู้ปกครองที่เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้” โดยมี นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เลขาธิการ ศอ.บต.) รอให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธของสำนักงานบังคับคดี จ.นราธิวาส บูธเรือนจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมสอบถามถึงผลิตภัณฑ์ฝีมือแรงงานของผู้ต้องขัง ก่อนเยี่ยมชมบูธของ ศอ.บต. พร้อมชิมชาชัก ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในจังหวัดชายแดนใต้ ของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนราธิวาส โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “อร่อยดี กินแล้วมีความเป็นไทย สมูทๆ ดี” ขณะเดียวกันยังได้เดินทักทายประชาชนจำนวนมากที่ขอถ่ายภาพร่วมกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้หยิบมือถือของประชาชนมาถ่ายภาพเซลฟี่ด้วย ขณะที่ประชาชนบางคนตะโกนบอกว่า “นายกฯ สวย” ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
น.ส.แพทองธาร กล่าวในช่วงหนึ่งว่า รู้สึกดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเจอกับพี่น้องทุกคนและได้มาที่ จ.นราธิวาส ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เปิดโอกาสให้กับประชาชนเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องหนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานของประเทศไทย เป็นเรื่องพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรจะได้รับการดูแลในเรื่องนี้ ต่อจากนี้คือเรื่องของการหารายได้เพิ่มให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่ารัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างโอกาสดีๆให้กับประชาชน เพราะปีนี้เป็นปีแห่งโอกาส และรัฐบาลจะพยายามที่จะทำให้พี่น้องประชาชนทุกๆ คนได้รับโอกาสในทุกพื้นที่
วันนี้ขอฝากไปยังเลขาฯ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งหารือกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการไกล่เกลี่ยหนี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยไม่ต้องมาถึงจังหวัด และที่ผ่านมาเราพูดกันในทุกเวทีว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าศักยภาพที่เรามี ซึ่งตอนนี้นโยบายของรัฐบาลสนับสนุนช่วยกันในเรื่องของการศึกษา ให้คนของเรามีสกิลเพิ่มมากขึ้นและมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับธุรกิจสิ่งใหม่ๆ การจ้างงานใหม่ๆ
ทางด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบเรือกอและจำลอง ของที่ระลึกให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทักทายประชาชน นักเรียน นักศึกษา พร้อมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินมายังโต๊ะไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ โดยมีลูกหนี้ที่กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยหนี้มีมูลค่า 80,000 บาท และเมื่อเข้าโครงการแล้วหนี้ลดเหลือ 50,000 บาท ผ่อนเดือนละ 540 บาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีสอบถามว่า “ไหวหรือไม่ สู้ๆนะ”
ต่อมาเวลา 13.20 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ น.ส.แพทองธาร เป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามความก้าวหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และติดตามโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก โครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่ – สุไหงโก-ลก พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการจัดหลักสูตรเตรียมความพร้อมการผลิตกำลังคนด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารส่วนราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารฝ่ายความมั่นคงจังหวัดนราธิวาส และนายกูเฮง ยาวอฮะซัน สส.นราธิวาส เขต 4 นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส เขต 5 พรรคประชาชาติ เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ตั้งใจมาตรวจราชการเพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่ว่ามีอะไรบ้างที่ส่วนกลางสามารถช่วยได้ เรื่องคมนาคมที่ทางจังหวัดนราธิวาสกำลังดำเนินการ ฝากให้ทางจังหวัดดูเรื่องระยะเวลา ไม่ต้องการให้ล่าช้า โดยสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2570 ในส่วนของการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่ – สุไหงโก-ลก ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ถือเป็นการพัฒนาโครงการสาธารณะ
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งสนับสนุนให้ทุนส่งเสริมเยาวชนไปเรียนต่อด้านอุตสาหกรรมในอนาคตจากต่างประเทศ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รัฐบาลต้องการพัฒนาการศึกษาให้เด็กและเยาวชนของไทยให้ก้าวหน้า มีความทันสมัย นำความรู้กลับมาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศต่อไป และขอบคุณกำลังใจพี่น้องชาวใต้ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ฝาก สส. ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ในการลงพื้นที่พบปะแก้ไขปัญหาให้กำลังใจประชาชน ฝากบอกประชาชนว่า รัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุน แก้ไขปัญหาทุกอย่างให้พี่น้องชาวใต้อย่างเต็มที่ ขอเน้นย้ำให้ส่วนราชการอย่าห่างเหินกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก อะไรที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจะรอช้าไม่ได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาลงพื้นที่ต่อยังจังหวัดยะลา
ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ