พาณิชย์ เผย ธุรกิจใหม่ ก.ย. โตพุ่ง 10.7% ดันช่วง 9 เดือน เฉียด7หมื่นราย – เปิด 3 ธุรกิจโตกระโดด คาดทั้งปียอดตั้งธุรกิจ 9.8 หมื่นราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์
วันที่ 29 ต.ค.2567 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนก.ย. 2567 ว่า มีจำนวน 7,867 ราย เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. 2566 เพิ่มขึ้น 760 ราย หรือ 10.69% และทุนจดทะเบียน 22,048.51 ล้านบาท ลดลง 2,122.13 ล้านบาท หรือ 8.78%
ส่วนช่วง 9 เดือนปี2567( ม.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 69,686 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 เพิ่มขึ้น 1,021 ราย หรือ 1.49% ทุนจดทะเบียน 208,481.38 ล้านบาท ลดลง 285,890.71 ล้านบาท หรือ 57.83% เนื่องจาก ปี 2566 มีทุนจดทะเบียนสูงสุดในประวัติการณ์จาก 2 ธุรกิจที่ทุนจดทะเบียนเกิน 100,000 ล้านบาท ได้ควบรวมและแปรสภาพ
ธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป
2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร
“ช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มี 3 ธุรกิจที่น่าจับตามองเพราะอัตราการจัดตั้งเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด คือ
1.ธุรกิจการออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง (ยกเว้นทางออนไลน์) จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 41 เท่า เนื่องจาก กสทช.ให้สถานีวิทยุกระจายเสียงดำเนินการขอรับใบอนุญาตกิจการกระจายเสียงภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 เพื่อนำไปประกอบการขออนุญาตดังกล่าว
- ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เช่น ตู้หยอดเหรียญล้างรถ ตู้หยอดเหรียญคีบตุ๊กตาและจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และตู้บริการถ่ายภาพโฟโต้บูธ จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 3.60 เท่า
- ธุรกิจปลูกข้าวเจ้า จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 2.56 เท่า เนื่องจากกรมการข้าวสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกร จัดตั้งเป็นนิติบุคคล เพื่อเข้าร่วมโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร”
นายอรมน กล่าวว่า คาดว่า ไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นอีก 20,000 – 23,000 ราย ทำให้ทั้งปีนี้ จะมีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 90,000 – 98,000 รายซึ่งถือว่ามีจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมีหลายปัจจัยสนับสนุนเช่น การกระตุ้นจากการลงทุนภาครัฐ
เช่น โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2568 เริ่มในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 คือช่วง ต.ค. 67ที่จะทยอยเริ่มโครงการ และช่วงปลายปีเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวระหว่างเดือนพ.ย. 2567 – เม.ย. 2568 จะเป็นปัจจัยกระตุ้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมทั้ง นโยบายการปรับโครงสร้างหนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ส่วนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนก.ย. 2567 ว่ามีจำนวน 2,254 ราย เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.2566 เพิ่มขึ้น 215 ราย หรือ 10.54%และทุนจดทะเบียนเลิก 16,611.91 ล้านบาท ลดลง 618.06 ล้านบาท หรือ 3.59% สาเหตุที่ทุนจดทะเบียนเลิก ก.ย.เพิ่มขึ้น10.54% เนื่องจาก มีนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 2 ราย คือ
1) บจ.เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด (แพลตฟอร์ม JD CENTRAL) ทุนจดทะเบียนเลิก 4,959.27 ล้านบาท ประกอบกิจการค้าปลีกผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
2) บจ.เซ็นทรัล เจดี มันนี่ จำกัด (แพลตฟอร์ม Dolfin Wallet) ทุนจดทะเบียนเลิก 2,532.00 ล้านบาท
ส่วนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการช่วง9เดือนปี2567 มีจำนวน 12,246 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ลดลง 764 ราย หรือ 5.87% ทุนจดทะเบียนเลิกสะสม 116,005.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34,604.61 ล้านบาท หรือ 42.51%
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ทุนจดทะเบียนเลิก9เดือนสูงกว่าปกติ เนื่องจากมีธุรกิจด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร จำนวน 1 ราย ทุนจดทะเบียนกว่า 48,209.34 ล้านบาท ได้จดทะเบียนเลิกกิจการ หากตัดธุรกิจดังกล่าวออกไปทุนจดทะเบียนเลิกลดลง 13,604.73 ล้านบาท หรือ 16.71% เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเลิกประกอบธุรกิจในปี 2567 พบว่า มีเพียง 17.57% ของการจัดตั้งธุรกิจ ซึ่งน้อยกว่าปี 2566 ที่มีสัดส่วน 18.95% ของการจัดตั้งธุรกิจ
ข้อมูล/ภาพ : ข่าวสด