ราคาน้ำมันดิบปรับลดจากความกังวลต่อภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางความครุกรุ่นของสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง
วันที่ 1 ตุลาคม 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงหลังตลาดยังคงกังวลต่อภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจจีน หลังดัชนีผู้จัดฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) อยู่ที่ระดับ 49.8 ในเดือน ก.ย. 67 ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนภาพของเศรษฐกิจจีนที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายแม้รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ออกมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 30 ก.ย. 2567 อยู่ที่ 68.17 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.01 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 71.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.21 เหรียญสหรัฐ
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด (FED) ส่งสัญญาณที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลงที่ระดับ 0.25% ในการประชุมสองครั้งที่เหลือของปี หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ภายหลังนายโยอาฟ กัลแลนต์ รมว.กลาโหมของอิสราเอล กล่าวว่าอิสราเอลพร้อมที่จะเปิดปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮิซบอเลาะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังคงมีกังวลว่าอาจเกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งจะส่งผลผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบในภูมิภาค
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงเล็กน้อยสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของจีนจะต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนหลังปริมาณการส่งน้ำมันเบนซินของเกาหลีใต้ปรับเพิ่มขึ้น 27.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของจีนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวยังคงอ่อนแอกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดีเซลจากพายุไต้ฝุ่นกระท้อนซึ่งจะพัดขึ้นสู่ชายฝั่งไต้หวันในช่วงสัปดาห์นี้
ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติ