บล.ลิเบอเรเตอร์ ชี้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ 29 ม.ค.68 เริ่มผ่อนคลายประเด็น AI คาดกระตุ้นแรงซื้อกลับมากขึ้น แนะเกาะติดการประชุม FED นัดแรก คาดยังคงดอกเบี้ยระดับเดิม กลยุทธ์ยังเน้นทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลงานขยายตัวเด่น แนะนำ “CCET”
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ 29 ม.ค.68 ว่า ปัจจัยในประเทศ คาดตลาดยังมีโอกาสฟื้นตัว ขานรับการเริ่มผ่อนคลายของประเด็น AI หนุนหุ้นอิเล็กทรอนิกส์กลัมมานำตลาด
ผสานปัจจัยในประเทศยังคาดได้แรงขับเคลื่อนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ดังนั้นยังมองจังหวะย่อเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการยังเติบโตเด่น ทั้งนี้ คาดการณ์ดัชนี SET Index วันนี้ฟื้นตัวในกรอบ 1,330-1,365 จุด
ด้านปัจจัยต่างประเทศนั้น วานนี้ (28 ม.ค.68) สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาด นำโดย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน ธ.ค. หดตัว -2.2% จากเดือนก่อน เร่งขึ้นจากเดือน พ.ย. ที่ -2.0% และสวนทางกับตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.6% จากเดือนก่อน
นอกจากนี้ ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ จาก Conference Board เดือน ม.ค. ก็ลดลงสู่ระดับ 104.1 จุด ต่ำกว่าเดือน ธ.ค. ที่ 109.5 จุด และต่ำกว่าคาดที่ 105.7 จุด โดยรวมสะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ไม่ร้อนแรงนัก ถือเป็นแรงหนุนบวกต่อโอกาสในการลดดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯในช่วงถัดไป
โดยคืนนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เป็นนัดแรกของปี แต่ทางฝ่ายคาดว่า FED จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25-4.50% ตามเดิมก่อน เนื่องจากอาจรอดูท่าทีของนโยบายต่างๆ ของโดนัล ทรัมป์ที่กำลังทยอยออกมาในระยะสั้น ผสานกับรอดูแนวโน้มของเงินเฟ้อสหรัฐฯ และภาพรวมเศรษฐกิจให้ชัดเจน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของ FED ในช่วงถัดไป
ปัจจัยที่ต้องจับตา
29 ม.ค.68
- ประชุม FED
- สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
30 ม.ค.68
- GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 4/67
- PCE สหรัฐฯ ไตรมาส 4/67
- GDP ยูโรโซนไตรมาส 4/67
- ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
- ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สหรัฐฯ
หุ้นเด่นแนะนำ
CCET ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ (บาท) 10.00 บาท
- คาดแนวโน้มไตรมาส 4/67 เติบโตดีกว่าเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาสก่อน แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากการเพิ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ผสานดอกเบี้ยที่ลดลง
- ส่วนปี 68 ยังเติบโตได้ดีจากโรงงานใหม่ที่เพิ่มกำลังการผลิตทั้งที่มหาชัย และเพชรบุรี ซึ่งจะเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่มากขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นมีการปรับฐานในระยะสั้น ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าทยอยสะสม
ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ