TRUE พลิกกำไรในไตรมาสแรก แต่คำถามใหญ่ยังไม่จบ: กำไรนี้ยั่งยืนจริงหรือแค่ภาพลวงตา?

หลังจากควบรวมกิจการมาเกือบ 2 ปี TRUE รายงานกำไรสุทธิ 1.6 พันล้านบาทในไตรมาส 1/2568 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ควบรวม ท่ามกลางเสียงชื่นชมด้านกลยุทธ์และวินัยทางการเงิน แต่เมื่อแยกชิ้นส่วนตัวเลขออกมา สิ่งที่น่าสนใจกว่า “กำไร” คือคำถาม: เรากำลังเห็น ‘การฟื้นตัว’ หรือแค่ ‘การพักหายใจชั่วคราว’?

เงื่อนไขของคำว่า “พลิกกำไร” ที่มาพร้อมรายการพิเศษ

แม้ TRUE จะรายงานกำไรสุทธิ 1.6 พันล้านบาท และเมื่อหักรายการพิเศษระบุว่า Normalized Net Profit อยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าสูง แต่ก็ไม่อาจมองข้ามได้ว่ากำไรดังกล่าวยังมีส่วนที่สะท้อน ผลประโยชน์ทางบัญชีจากการควบรวมกิจการ และการลดต้นทุนแบบ “เฉียบพลัน” ไม่ใช่การเติบโตเชิงคุณภาพอย่างแท้จริง

ที่น่าจับตามองยิ่งกว่าคือ รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเมื่อหักปัจจัยตามฤดูกาล รายได้เติบโตเพียง 0.3% ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ใช้บริการมือถือก็ “ลดลง” ถึง 638,000 เลขหมาย หรือ 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งหากมองในมุมของการวางรากฐานการเติบโตในระยะยาว ยังไม่พบสัญญาณเชิงรุกที่ชัดเจน

รายได้ทรง แต่ต้นทุนลด: ชัยชนะที่อาจแลกมาด้วยความเสี่ยง

การที่ EBITDA โตถึง 7.1% ส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลงถึง 5.7% และ SG&A ลดถึง 16.9% ซึ่งฟังดูเหมือนประสบความสำเร็จ แต่หากย้อนมองโครงสร้างองค์กรที่ถูก “รีดไขมัน” อย่างหนัก กลับกลายเป็นคำถามสำคัญว่า การลดรายจ่ายแบบกวาดล้างนั้น จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในอนาคตหรือไม่ โดยเฉพาะในโลกโทรคมนาคมที่ต้องใช้ทั้งเทคโนโลยีและบุคลากรที่ “เข้าใจลูกค้า” อย่างลึกซึ้ง

Synergy คือคำหวาน แต่รสชาติอาจไม่ตรงปากตลาด

ผู้บริหาร TRUE กล่าวถึง Synergy ว่าเป็นผลสำเร็จสำคัญของการควบรวม แต่ในความเป็นจริง ผลกระทบของการควบรวมยังไม่เสร็จสิ้น และความทับซ้อนของระบบ โครงสร้าง และวัฒนธรรมองค์กรจากสองบริษัทเดิมอย่าง TRUE และ DTAC ยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการหลอมรวมอย่างแท้จริง

ยิ่งเมื่อดูจากผู้ใช้บริการที่หดตัว โดยเฉพาะกลุ่ม Prepaid ที่ลดลงถึง 2% สะท้อนความเปราะบางของฐานลูกค้าที่ยังไม่เห็น “คุณค่าใหม่” จากการควบรวม มากไปกว่านั้น ตลาดยังไม่เห็นบริการใหม่ที่แตกต่างจริงจากการเป็น Telecom-tech company ตามที่ TRUE วาดฝัน

จากโทรคมฯ สู่เทคโนโลยี: คำถามที่ยังไร้คำตอบ

TRUE ประกาศจุดยืนว่าจะเป็นบริษัทเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการมือถือ แต่ ณ ปัจจุบัน รายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจเดิม และ ความก้าวหน้าในการใช้ AI ที่กล่าวถึงยังคงอยู่ในระดับ “ภาพรวม” มากกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในเชิงธุรกิจ

บทเรียนจากตัวเลข: อย่าเพิ่งรีบปรบมือให้กำไร

ความจริงที่ไม่อาจมองข้ามคือ TRUE ยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน รายได้ยังไม่ฟื้น การแข่งขันยังดุเดือด ผู้ใช้บริการยังลดลง

กำไรในไตรมาสนี้จึงไม่ใช่ “บทสรุปแห่งชัยชนะ” แต่คือ บทเรียนเรื่องการบริหารต้นทุนในระยะสั้น ที่ต้องจับตาว่าจะกลายเป็นการเติบโตในระยะยาว หรือแค่การพักเหนื่อยกลางสนามก่อนถูกแรงกดดันของตลาดโหมซ้ำ