แนวทางซื้อบ้าน-คอนโดปี 2568 ค่าโอน ภาษี และสิทธิประโยชน์ที่ควรรู้

ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับ “ค่าโอนบ้าน” และภาระภาษี

ค่าโอนบ้าน คือ ค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นเมื่อต้องโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์จากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ ณ สำนักงานที่ดิน ซึ่งภาระนี้แบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยบางรายการเป็นหน้าที่ของผู้ขาย และบางส่วนเป็นของผู้ซื้อ

อัตราค่าธรรมเนียมและภาษีหลักที่เกี่ยวข้องมีดังนี้:

  • ค่าธรรมเนียมการโอน (2%): คำนวณจากราคาประเมินของกรมที่ดินหรือราคาซื้อขายจริง (ใช้ราคาที่สูงกว่า)
  • ค่าอากรแสตมป์ (0.5%): ชำระในกรณีที่ไม่ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
  • ค่าจดจำนอง (1%): กรณีขอสินเชื่อบ้าน ต้องจดจำนองกับสำนักงานที่ดิน
  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: ภาระของผู้ขาย คิดตามอัตราก้าวหน้าและระยะเวลาการถือครองทรัพย์
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ (3.3%): กรณีผู้ขายถือครองทรัพย์สินไม่เกิน 5 ปี หรือขายเพื่อการค้า

ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่าย

การคำนวณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้านหรือคอนโดในปี 2568 โดยใช้ราคา 1,000,000 บาท เพื่อให้เห็นภาพการคำนวณอย่างชัดเจน

รายการอัตราคิดคำนวณราคา/วงเงิน (บาท)จำนวนเงินที่ต้องจ่าย (บาท)
ค่าธรรมเนียมการโอน (2%)2% ของราคาประเมิน1,000,000 บาท1,000,000 × 2% = 20,000 บาท
ค่าจดจำนอง (1%)1% ของวงเงินกู้1,000,000 บาท1,000,000 × 1% = 10,000 บาท
ภาษีธุรกิจเฉพาะ (3.3%)3.3% ของราคาขายหรือประเมิน1,000,000 บาท1,000,000 × 3.3% = 33,000 บาท
ค่าอากรแสตมป์ (0.5%)0.5% ของราคาขายหรือประเมิน1,000,000 บาท1,000,000 × 0.5% = 5,000 บาท

ใครจ่ายค่าอะไร? หน้าที่ของผู้ซื้อและผู้ขาย

ในทางปฏิบัติ ค่าใช้จ่ายต่างๆ สามารถตกลงกันได้ระหว่างคู่สัญญา แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีแนวทางดังนี้:

  • ค่าธรรมเนียมโอน: แบ่งกันคนละครึ่ง หรือแล้วแต่ตกลง
  • ค่าจดจำนอง: ผู้ซื้อรับผิดชอบ
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ และ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: ผู้ขายรับผิดชอบ
  • ค่าอากรแสตมป์: ผู้ขายรับผิดชอบ หากไม่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

มาตรการภาครัฐ ปี 2568 โอกาสประหยัดหลายหมื่น

เพื่อกระตุ้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือที่น่าสนใจสำหรับปี 2568 ได้แก่:

  • ลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท
  • แนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ย ช่วยให้สินเชื่อบ้านถูกลง
  • การต่ออายุมาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 90%
  • สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากรัฐ เช่น

ขั้นตอนสำคัญที่ต้องรู้ก่อนซื้อบ้านหรือคอนโด

  1. เตรียมเอกสาร: ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายควรตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน เช่น สำเนาโฉนด สัญญาจะซื้อจะขาย หนังสือยินยอม ฯลฯ
  2. การชำระเงินและยื่นกู้สินเชื่อ: หากกู้ธนาคาร ต้องจัดเตรียมเอกสารด้านการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน สเตทเมนต์
  3. จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน: เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้การซื้อ-ขายสมบูรณ์ตามกฎหมาย
  4. ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร และควรพิจารณาขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับผู้ที่มีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินช่วงซื้อบ้าน บัตรกดเงินสด KTC PROUD ก็อาจเป็นทางเลือกช่วยเสริมสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสามารถในการกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดตามรายได้

เมื่อเรามีรายได้ต่อเดือน การคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระจะช่วยให้ทราบว่าคุณสามารถกู้เงินซื้อบ้านหรือคอนโดได้ในวงเงินประมาณไหน โดยทั่วไป สถาบันการเงินจะพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระที่ 30-40% ของรายได้ต่อเดือน ดังนี้:

รายได้ต่อเดือนความสามารถในการผ่อนวงเงินกู้ที่เป็นไปได้*
15,000 บาท4,500-6,000 บาท500,000-700,000 บาท
25,000 บาท7,500-10,000 บาท800,000-1,200,000 บาท
35,000 บาท10,500-14,000 บาท1,200,000-1,700,000 บาท
50,000 บาท15,000-20,000 บาท1,800,000-2,400,000 บาท
70,000 บาท21,000-28,000 บาท2,500,000-3,400,000 บาท

*หมายเหตุ: วงเงินกู้คำนวณโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน

วิธีคำนวณเงินผ่อนบ้านหรือผ่อนคอนโด

การคำนวณเงินผ่อนบ้านหรือคอนโดที่ต้องจ่ายต่อเดือนนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้สูตรพื้นฐานนี้

สูตรการคำนวณดอกเบี้ยคงที่

  1. เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนปี = ดอกเบี้ยทั้งหมด
  2. (เงินต้น + ดอกเบี้ยทั้งหมด) / จำนวนงวด = เงินผ่อนชำระต่อเดือน

ตัวอย่างการคำนวณ:

หากวงเงินกู้เป็นจำนวน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3% และระยะเวลา 30 ปี

  1. คำนวณดอกเบี้ยทั้งหมด:
    2,000,000 x 3% x 30 ปี = 1,800,000 บาท
  2. คำนวณเงินผ่อนชำระต่อเดือน:
    (2,000,000 + 1,800,000) / 360 งวด = 10,555 บาท
    ค่างวดประมาณ 10,600 บาท

การเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดตามรายได้

ผู้ที่มีรายได้ 25,000 บาทต่อเดือน จะสามารถกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดได้ในวงเงินประมาณ 800,000 – 1,200,000 บาท โดยค่างวดจะอยู่ที่ประมาณ 7,500 – 10,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับการผ่อนชำระและอัตราดอกเบี้ยที่แต่ละสถาบันการเงินกำหนด

การคำนวณและการประเมินความสามารถในการผ่อนชำระนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่า ควรเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดในระดับราคาที่เหมาะสมกับรายได้ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

การซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ สิทธิประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และขั้นตอนสำคัญต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจและดำเนินการได้อย่างมั่นใจ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ