ม.หอการค้าไทย จับตาไตรมาส 2 หนุนเศรษฐกิจไทย ปี 68 โต 3%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินว่า เศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2568 จะมีการเติบโตได้ในกรอบ 2.8-3.2% หรือมีค่าเฉลี่ยที่ 3% ภายใต้เงื่อนไข ไม่มีเหตุการณ์ใดรุนแรง แต่หากทรัมป์ ทำสงครามการค้าขึ้นภาษี10% จะทำให้เงินหายจากระบบไปประมาณ 160,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ต้องจับตาดูช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญว่า จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีหน้า โตได้ถึงระดับ 3% หรือไม่นั้น เพราะจะเป็นช่วงที่เห็นประสิทธิผลจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่ทยอยออกมาตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนถึงช่วงไตรมาสแรกปีหน้า

ทั้งนี้ มาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส2 สำหรับผู้สูงอายุ น่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 40,000 ล้านบาทบวกกับมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” พักดอกเบี้ย ลดการชำระเงินต้น ซึ่งมีการลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2567 – 28 ก.พ.2568 น่าจะเริ่มมีผลในปลายไตรมาส 1 

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดว่า จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนทั้งปีอย่างน้อย 80,000 – 100,000 ล้านบาท ที่ประชาชนจะประหยัดไปได้ และธนาคารเองก็จะสามารถปล่อยเงินกู้ได้ต่อ และมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท คาดว่าเงินจะหมุนเข้าระบบประมาณ 40,000 ล้านบา

ดังนั้น ก็ยิ่งเป็นแรงบวกสำหรับเศรษฐกิจไทย กำลังซื้อ และการบริโภค ภายใต้เงื่อนไขไม่มีการช็อกโลกจากผลกระทบสงครามการค้าที่รุนแรง สงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามในตะวันออกกลาง บานปลายรุนแรง และการเมืองไม่สงบ วุ่นวาย 

อย่างไรก็ดี ต้องจับตาสถานการณ์การเมืองไทยในช่วงเม.ย.-มิ.ย. ว่าจะมีความนิ่งแค่ไหน เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ย่อมมีผลต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2669 ซึ่งอาจจะเกิดความล่าช้า และมีปัญหาเช่นเดียวกับการทำงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่ผ่านมา

รวมทั้งสถานการณ์ความยืดเยื้อของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมทั้งสงครามการค้ารอบใหม่ ภายหลังการขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งเหล่านี้ จะเห็นในช่วงไตรมาส 2 ที่เป็นจุดวัดเศรษฐกิจไทยปีหน้า 

ทั้งนี้ โครงการ Easy E-Receipt สำหรับให้ประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องชำระภาษี ไปจับจ่ายใช้สอยในกับร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษี/ใบรับ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt วงเงิน 50,000 บาท เริ่มตั้งแต่ 15 ม.ค. – 28 ก.พ.2568 โดยสามารถนำใบกำกับภาษีดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2568

ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ