นักวิชาการห่วง “คาสิโน” ใน “Entertainment Complex” ดันหนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง

นักวิชาการห่วง “คาสิโน” ใน “Entertainment Complex” ดันหนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง ชี้ปัญหาครอบครัว รวมถึงอาชญากรรมจะเพิ่มขึ้น แนะต้องระมัดระวังปัญหาทางสังคม และต้องกำกับดูแลให้ดี

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การเปิดให้มีการพนันถูกกฎหมายอาจเป็นนโยบายที่ดีและเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการเศรษฐกิจนอกระบบเศรษฐกิจนอกกฎหมายเท่านี้ จะเป็นประโยชน์ก็ต่อเมื่อสามารถดูแลให้การดำเนินการต่างๆต้องป้องกันผลกระทบระยะยาวต่อสังคมให้ได้มากที่สุด

การมี Entertainment Complex จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนหากจะมีคาสิโนใน Entertainment Complex ก็เป็นเอาเศรษฐกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน สามารถเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมได้ และลดการทุจริตคอร์รัปชันติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีการเปิดบ่อนพนันผิดกฎหมาย 

อย่างไรก็ตาม การมีคาสิโนใน Entertainment Complex ต้องระมัดระวังปัญหาทางสังคมและต้องกำกับดูแลให้ดี หลายปัญหาที่อาจตามมาต้องเตรียมรับมือด้วย เช่น หนี้ครัวเรือนอาจเพิ่มขึ้น ปัญหาครอบครัวเพิ่มขึ้น ปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้น เป็นต้น 

หากกำกับควบคุมปัญหาผลกระทบข้างเคียงจากคาสิโนเหล่านี้ได้ การทำให้การพนันถูกกฎหมายเป็นสิ่งที่สังคมจะได้มากกว่าเสียและเป็นแนวนโยบายที่เหมาะสม

หากสำรวจดูรายได้ Entertainment Complex ที่มีคาสิโนในหลายประเทศ พบว่า มาเก๊า มีรายได้เฉพาะการเล่นเกม 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ,สหรัฐอเมริกา (ลาสเวกัส) 30,000 ล้านดอลลาร์ ,สิงคโปร์ 12,000 ล้านดอลลาร์ ,เกาหลีใต้ 9,000 ล้านดอลลาร์ และฟิลิปปินส์ 6,000 ล้านดอลลาร์ 

กรณีสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรมาก ก็อาศัยการหารายได้จากสถานบันเทิงครบวงจรที่มีรายได้จากธุรกิจเป็น 4% ของจีดีพีประเทศ นักท่องเที่ยว 30% ได้ไปเยี่ยมชมสถานบันเทิงครบวงจร 

ส่วนไทยนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลากหลาย จำเป็นต้องสร้าง Entertainment Complex หรือไม่เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวหรือไม่ อย่างไร ก็ต้องไปพิจารณาให้ดี ส่วนอัตราภาษีคาสิโน ไทยควรจะเก็บอยู่ในช่วง 15-30% (สิงคโปร์เก็บอยู่ 17% มาเก๊าเก็บอยู่ 35%)

ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ

author avatar
CatchUp