อีลอน มัสก์ ยอมรับวิจารณ์ทรัมป์แรงเกินไปผ่าน X

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกและซีอีโอของ Tesla และ SpaceX ยอมรับเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ว่าเขาแสดงความเห็นรุนแรงเกินไปต่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านแพลตฟอร์ม X หลังเกิดข้อขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อมัสก์โพสต์ข้อความโจมตีนโยบายของทรัมป์ว่า “น่ารังเกียจ” ส่งผลให้เกิดกระแสตอบโต้ทั้งจากทรัมป์และกลุ่มสนับสนุน จนความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองสะบั้นลง ล่าสุดมัสก์โพสต์ขอโทษโดยยอมรับว่าเขา “เกินเลยไป” ขณะเดียวกัน หุ้นของ Tesla ในตลาดแฟรงก์เฟิร์ตปรับขึ้นทันที 2.44% หลังจากโพสต์ขอโทษดังกล่าว

หลังจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง อีลอน มัสก์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ปะทุผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุดมหาเศรษฐีชื่อดังได้แสดงท่าทีลดระดับความขัดแย้งด้วยการโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจบนแพลตฟอร์ม X ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่เขาเป็นเจ้าของ โดยระบุว่า ข้อความบางส่วนที่เขาโพสต์เกี่ยวกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ “เกินว่าเหตุ”

ต้นเหตุของข้อพิพาทเกิดจากการที่มัสก์วิจารณ์ร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลทรัมป์อย่างรุนแรง โดยใช้คำว่า “สิ่งที่น่ารังเกียจ” ซึ่งส่งผลให้ทรัมป์ตอบโต้ทันทีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนว่า ความสัมพันธ์ของเขากับมัสก์ได้สิ้นสุดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากมัสก์โทรมาอวยพร เขาก็จะไม่ติดขัดใด ๆ

แม้ว่า อีลอน มัสก์ จะไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าเขาเสียใจกับโพสต์ใดเป็นพิเศษ แต่การออกมายอมรับครั้งนี้ทำให้สถานการณ์ดูคลี่คลายลงเล็กน้อย โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดกับมัสก์เปิดเผยว่า ความโกรธของเขาเริ่มลดลง และเขาอาจต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับทรัมป์อีกครั้ง

ในช่วงเวลาหลังโพสต์ขอโทษ มีการสังเกตว่า มัสก์ได้ลบโพสต์หลายรายการที่เคยวิจารณ์ทรัมป์ออกไป รวมถึงโพสต์ที่เคยสนับสนุนแนวคิดในการถอดถอนประธานาธิบดี ซึ่งอาจสะท้อนถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาอย่างชัดเจน

ความเคลื่อนไหวของมัสก์ยังส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัท Tesla โดยหลังจากโพสต์ขอโทษ ราคาหุ้นในตลาดแฟรงก์เฟิร์ตปรับตัวเพิ่มขึ้นทันที 2.44% แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงมีต่อผู้นำเทคโนโลยีรายนี้

ทางด้าน แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับคำขอโทษจากมัสก์และได้ขอบคุณสำหรับท่าทีดังกล่าว พร้อมระบุว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีการพิจารณาทบทวนสัญญารัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของมัสก์แต่อย่างใด

สถานการณ์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า แม้จะมีความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างสองบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในวงการธุรกิจและการเมืองของสหรัฐฯ แต่ก็ยังมีช่องทางให้เกิดการฟื้นความสัมพันธ์ หากทั้งสองฝ่ายเลือกที่จะเดินหน้าอย่างสร้างสรรค์และเปิดรับการสื่อสารในทางบวกมากขึ้น

ข้อมูล : pptvhd36