เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการแถลงข่าวครั้งสำคัญโดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ พร้อมผู้บริหารระดับสูงจาก AIS, JAS และ GULF ประกาศคว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพไทยแบบ Exclusive ครอบคลุม 6 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2025/26 ถึง 2028/29 พร้อมเงื่อนไขต่อสัญญาอีก 2 ปี โดยเนื้อหาหลักคือการเปิดให้ คนไทยชมฟุตบอลไทยลีกฟรี ผ่านแพลตฟอร์ม AIS PLAY และ MONOMAX ทั่วประเทศ รวมถึงแผนยกระดับวงการลูกหนังไทยทั้งระบบ ทั้งเรื่องอคาเดมี, การพัฒนาผู้ตัดสิน และเทคโนโลยีถ่ายทอดสดระดับสากล โดยมีความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
บรรยากาศที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คึกคักเป็นพิเศษในวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 เมื่อ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย สารัชถ์ รัตนาวะดี CEO บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), สมชัย เลิศสุทธิวงค์ CEO บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS และ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา CEO บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ร่วมกันประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกอาชีพไทยอย่างเป็นทางการ
การจับมือของทั้งสามยักษ์ใหญ่ในวงการสื่อสารและพลังงาน ส่งผลให้กลุ่ม AIS-GULF-JAS คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกทุกระดับ รวมถึงฟุตบอลถ้วย, ลีกเยาวชน และฟุตบอลหญิง เป็นระยะเวลา 4 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2025/26 ถึง 2028/29 ด้วยมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมเงื่อนไขพิเศษต่อสัญญาอีก 2 ปี ซึ่งได้รับมติเห็นชอบจากสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อย่างเป็นทางการ
นวลพรรณ ล่ำซำ เปิดเผยว่า การถ่ายทอดสดฟุตบอลจะครอบคลุม ไทยลีก 1 และ ไทยลีก 2 ทุกคู่ ส่วน ไทยลีก 3 อาจไม่สามารถถ่ายทอดสดครบทุกคู่ได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคนิคในบางสนาม แต่สโมสรที่มีแพลตฟอร์มของตนเองจะสามารถถ่ายทอดสดได้เช่นกัน ทั้งนี้เพื่อสร้างฐานแฟนบอลในระดับท้องถิ่นอย่างมั่นคง พร้อมยืนยันว่าแฟนบอลไทยจะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ฟรี ผ่านระบบ HD บนแพลตฟอร์ม AIS PLAY และ MONOMAX
ในขณะที่ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ระบุว่า JAS ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษอยู่แล้ว กำลังเจรจากับพรีเมียร์ลีกเพื่อวางแผนความร่วมมือในระดับโครงสร้าง อาทิ การสร้าง อคาเดมีฟุตบอล, การพัฒนาผู้ตัดสินไทย และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีถ่ายทอดสดคุณภาพสูงให้กับฟุตบอลไทย พร้อมเปิดเผยว่าแพลตฟอร์ม MONOMAX และช่อง MONO MAXX ซึ่งจะถ่ายทอดพรีเมียร์ลีก จะเป็นช่องทางถ่ายทอดฟุตบอลไทยลีกด้วยเช่นกัน เพื่อให้แฟนบอลสามารถรับชมฟุตบอลต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างไร้รอยต่อ
ด้าน สมชัย เลิศสุทธิวงค์ จาก AIS ยืนยันว่าการรับชมฟุตบอลไทยลีกสำหรับประชาชนจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ หากเป็นสมาชิกของ AIS PLAY หรือ MONOMAX โดยระบบภาพจะเป็นแบบ HD ครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์รับชมให้เข้าถึงทุกครัวเรือนได้อย่างแท้จริง
การประมูลลิขสิทธิ์ครั้งนี้ครอบคลุมการแข่งขันรายการหลัก ได้แก่ ไทยลีก 1, ไทยลีก 2, ไทยลีก 3, ช้าง เอฟเอ คัพ, รีโว่ คัพ, U21 ลีก และ ฟุตบอลหญิงลีก ดิวิชัน 1-2 โดยมีการลงทุนในการผลิตสัญญาณไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาทต่อฤดูกาล หรือรวมไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาทตลอดระยะเวลา 4 ปี ทั้งหมดนี้ทำให้สมาคมฯ ได้รับรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทตลอด 4 ฤดูกาล
ความร่วมมือนี้ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการฟุตบอลไทย ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกจากภาคเอกชน ที่ไม่ได้เพียงแค่มองเรื่องผลประโยชน์เชิงธุรกิจ แต่ยังใส่ใจถึงการพัฒนาระบบนิเวศของวงการกีฬาไทยในระยะยาว
ข้อมูล : thestandard