ศาลล้มละลายกลางเตรียมอ่านคำพิพากษาการสิ้นสุดแผนฟื้นฟูกิจการของ การบินไทย วันที่ 16 มิถุนายน 2567 หลังดำเนินการครบตามเงื่อนไขทุกประการ โดยไม่มีการคัดค้านจากเจ้าหนี้หรือกลุ่มพนักงาน ขณะที่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู เผยหากศาลสั่งยุติการฟื้นฟูสำเร็จ อำนาจจะกลับสู่คณะกรรมการบริษัท และมีโอกาสสูงที่จะกลับเข้าซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้
ศาลล้มละลายกลาง ได้พิจารณาคำร้องของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อขอยุติการฟื้นฟูกิจการ หลังจากดำเนินการตามแผนฟื้นฟูครบถ้วนแล้ว โดยมีการไต่สวนในวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งผลจากการพิจารณานำไปสู่การนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญว่าสายการบินแห่งชาติจะกลับสู่สถานะของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามปกติได้หรือไม่
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เปิดเผยว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ได้รับรองอย่างชัดเจนว่า การบินไทย ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูครบทุกขั้นตอนแล้ว ซึ่งรวมถึงการชำระหนี้ การปรับโครงสร้างองค์กร และการบริหารจัดการทางการเงิน โดยไม่มีประเด็นหรือข้อพิพาทสำคัญค้างคาอยู่ในระบบศาล
แม้จะมีกลุ่มอดีตพนักงานหรือเจ้าหนี้บางส่วนปรากฏตัวที่ศาลในวันไต่สวน แต่ก็ไม่มีการยื่นคำคัดค้านอย่างเป็นทางการ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวไม่มีสถานะทางกฎหมายในฐานะเจ้าหนี้ที่สามารถยื่นคัดค้านได้ อีกทั้งกรณีการชำระเงินชดเชยพนักงานก็ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลแล้ว ไม่มีการเลือกปฏิบัติ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ยืนยันว่าทุกกระบวนการได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง
หากศาลมีคำสั่งให้ยุติการฟื้นฟูกิจการในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ จะส่งผลให้การบริหารของบริษัทพ้นจากแผนฟื้นฟู โดยอำนาจในการดำเนินกิจการจะโอนกลับไปยัง คณะกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้น ตามโครงสร้างปกติ พร้อมยุติบทบาทของผู้บริหารแผนทันที
อีกประเด็นสำคัญคือการเตรียมความพร้อมกลับเข้าสู่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย การบินไทย ตั้งเป้าจะสามารถกลับมาซื้อขายหุ้นได้อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามกรอบเวลาที่กำหนด แต่แนวโน้มในขณะนี้ถือว่ามีความเป็นไปได้สูงอย่างมาก
การพ้นฟื้นฟูครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ การบินไทย หลังจากต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูในช่วงวิกฤตโควิด-19 และเผชิญปัญหาหนี้สะสมจำนวนมาก โดยการดำเนินการฟื้นฟูในรอบหลายปีที่ผ่านมาได้ช่วยให้บริษัทปรับตัวทางการเงินและโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อให้กลับมามีศักยภาพในตลาดอีกครั้ง
ข้อมูล : bangkokbiznews