มหาเศรษฐีชื่อดัง อีลอน มัสก์ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2025 ว่าเขาจะอำลาตำแหน่ง พนักงานรัฐบาลพิเศษ ภายใน ทำเนียบขาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ หลังหมดวาระการทำงาน 130 วันต่อปีนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังเขาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อร่างงบประมาณของทรัมป์ที่เสนอให้ลดภาษีหลายล้านล้านดอลลาร์ พร้อมกับเพิ่มงบประมาณกองทัพ โดย อีลอน มัสก์ ยืนยันว่าจะหันกลับมาทุ่มเทเวลาให้กับ Tesla และ SpaceX เต็มกำลัง นอกจากนี้ยังย้ำผ่าน X ว่าจะยังสนับสนุนภารกิจของ กระทรวงโดจ (Department of Government Efficiency) ที่เขาเคยได้รับมอบหมายให้ดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
บีบีซี รายงานว่า การอำลาตำแหน่งของ อีลอน มัสก์ ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเขาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ร่างงบประมาณของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงานหลักของรัฐบาล โดย อีลอน มัสก์ เปิดเผยผ่าน X ว่า การทำงานในฐานะ พนักงานรัฐบาลพิเศษ ใกล้ครบกำหนดตามข้อตกลงที่ให้เขาทำงานได้ 130 วันต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา
อีลอน มัสก์ ยังโพสต์ข้อความขอบคุณ ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ให้โอกาสเขารับผิดชอบงานใน กระทรวงโดจ หรือ Department of Government Efficiency (Doge) ซึ่งมีเป้าหมายในการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในหน่วยงานรัฐบาล นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำว่าภารกิจของ กระทรวงโดจ จะดำเนินต่อไปและเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ แม้เขาจะอำลาตำแหน่งแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การแสดงจุดยืนต่อร่างงบประมาณของทรัมป์สะท้อนให้เห็นมุมมองของ อีลอน มัสก์ ต่อความมั่นคงทางการคลังของสหรัฐฯ โดยเขาให้สัมภาษณ์กับ CBS ว่า ร่างงบประมาณใหม่นี้อาจทำให้การขาดดุลงบประมาณพุ่งสูงขึ้น และขัดขวางภารกิจหลักของ กระทรวงโดจ ในการปรับโครงสร้างประสิทธิภาพของรัฐบาล
อีลอน มัสก์ ยังยืนยันความมุ่งมั่นในการกลับมาโฟกัส Tesla และ SpaceX อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์ แพลตฟอร์ม X ล่มทั่วโลก เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างผลกระทบต่อผู้ใช้งานนับหมื่นคนทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก อีลอน มัสก์ ในฐานะเจ้าของใหญ่ของ X กล่าวว่า เขาพร้อมทุ่มเวลา 24 ชั่วโมงทุกวันให้กับการฟื้นฟูระบบของ X และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ใน Tesla และ SpaceX
สำหรับช่วงเวลานี้ อีลอน มัสก์ ย้ำว่าเขาจะนอนในห้องประชุมและโรงงาน เพื่อผลักดันโครงการสำคัญๆ ของทั้งสองบริษัท โดยเฉพาะโครงการเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจของเขาที่ต้องการให้ Tesla และ SpaceX กลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลกต่อไป
ข้อมูล : matichon