ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงโตไม่หยุด คนไทยเปย์ทะลุหมื่นล้านใน 5 ปี

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ว่า คนไทยหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้นจนกลายเป็นสมาชิกในครอบครัว ส่งผลให้ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง เติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีรายได้รวมเฉลี่ยกว่า 330,000 ล้านบาท และทำกำไรเฉลี่ยปีละ 12,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมืองอย่างกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ขณะที่แนวโน้มการแข่งขันจะทวีความรุนแรงขึ้นจากผู้เล่นใหม่และสินค้านำเข้าต่างประเทศ ด้านผู้ประกอบการไทยถูกแนะให้เร่งปรับตัว รับกระแสการเลี้ยงสัตว์เป็นไลฟ์สไตล์ พร้อมเปิดกว้างหา พันธมิตรธุรกิจ ใหม่รับการเติบโตอย่างยั่งยืน


กระแสการใช้ชีวิตของคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการหันมาเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นเพื่อนคลายเหงา ทำให้สัตว์เลี้ยงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ส่งผลให้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ประกอบการ รายได้รวม และกำไรสุทธิ

ข้อมูลจาก DBD DataWarehouse+ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ณ วันที่ 30 เมษายน 2568 ประเทศไทยมีธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจดทะเบียนทั้งหมด 3,659 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมกว่า 145,219 ล้านบาท โดยในปี 2566 มีการจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ 487 ราย แม้ในปี 2567 จะลดลงเหลือ 436 ราย แต่ทุนจดทะเบียนกลับเพิ่มขึ้นจาก 658 ล้านบาท เป็น 681 ล้านบาท ส่วนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม–เมษายน) มีการจัดตั้งใหม่แล้ว 124 ราย รวมทุนจดทะเบียน 186 ล้านบาท

เมื่อวิเคราะห์ผลประกอบการในช่วงปี 2562-2566 พบว่า ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีรายได้รวมเฉลี่ยสูงถึง 330,000 ล้านบาทต่อปี และมีกำไรเฉลี่ยปีละ 12,000 ล้านบาท โดยพื้นที่ที่มีธุรกิจหนาแน่นที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร รองลงมาคือ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี และ นครปฐม สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตในเขตเมืองที่มีไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์การเลี้ยงสัตว์

นางอรมน ยังระบุว่า ทิศทางของธุรกิจนี้ยังคงสดใส แต่ผู้ประกอบการจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการเข้ามาของสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมแนะนำให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวทั้งในด้านนวัตกรรม การหาพันธมิตร และการขยายตลาดใหม่ เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายและเติบโตได้อย่างมั่นคง

นอกจากนี้ หนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ตลาดอาหารสัตว์เติบโตคือ ปรากฏการณ์ “Petfluencer” หรือสัตว์เลี้ยงที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยสร้างรายได้ให้เจ้าของ แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการเลี้ยงสัตว์เลียนแบบ และกระแสการซื้ออาหาร ของใช้ และของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นตามมา

ในขณะเดียวกัน ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับวงจรชีวิตของสัตว์เลี้ยงก็ขยายตัวตาม ไม่ว่าจะเป็นบริการ Health & Wellness สำหรับสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงธุรกิจ จัดงานอวมงคลสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงในทุกมิติของชีวิต

แนวโน้มการผลิตสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงยังมุ่งไปสู่ความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีดีไซน์ที่ทันสมัย และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดูแลสัตว์เลี้ยงมากขึ้น พร้อมกันนี้ สถานที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยว ก็ปรับตัวรับ

ข้อมูล : thaipbs