SCB EIC หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 68 เหลือ 2.2% รับแรงกดดันสงครามการค้ารอบใหม่

เศรษฐกิจโลกปี 2568 เสี่ยงสะดุดจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ ขณะเศรษฐกิจไทยเผชิญภาวะ Technical recession กลางปี SCB EIC ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกเหลือ 2.2% และหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 68 เหลือ 1.5%

SCB EIC ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2568 เหลือ 2.2%

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2568 ลงเหลือ 2.2% จากเดิมที่ประเมินไว้ 2.6% จากผลกระทบของกำแพงภาษีสหรัฐฯ ที่เริ่มเก็บภาษีนำเข้าขั้นต่ำ (Universal tariff) 10% ทั่วโลก และภาษีเฉพาะรายสินค้า (Specific tariff) เช่น ยานยนต์ เหล็ก และอะลูมิเนียม รวมถึงภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariff) สินค้าจีนสูงถึง 125%

ทั้งนี้สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มจะขยายการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ประเทศคู่ค้าราว 60 ประเทศที่เกินดุลกับสหรัฐฯ ภายในไตรมาส 3/2568 ซึ่งเอเชียและอาเซียนรวมถึงไทยถือเป็นกลุ่มที่เสี่ยงสูง


ทั่วโลกผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ความไม่แน่นอนยังสูง

SCB EIC คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดดอกเบี้ยรวม 75 bps เพื่อบรรเทาความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แม้เงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจเร่งลดดอกเบี้ยรวม 125 bps ส่วนธนาคารกลางจีน (PBOC) คาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 bps แต่ยังคงรักษาระดับดอกเบี้ยไว้ไม่ต่ำกว่า 1% เพื่อรับมือความเสี่ยงในอนาคต


เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 โต 3% แต่เสี่ยงเข้าสู่ Technical recession ครึ่งปีหลัง

เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกยังเติบโตได้ต่อเนื่องที่ราว 3% จากการส่งออกที่เร่งตัวก่อนการขึ้นภาษี การบริโภคภาคเอกชน และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ แม้จะมีแรงกดดันจากผลกระทบแผ่นดินไหวต่อการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ดี SCB EIC เตือนว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 2568 มีความเสี่ยงสูงที่จะเข้าสู่ภาวะ Technical recession จากผลกระทบของสงครามการค้ารอบใหม่ ความไม่แน่นอนทางการค้า และความเชื่อมั่นภาคเอกชนที่ลดลง โดยปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 68 เหลือเพียง 1.5% จากเดิมที่ 2.4%


ไทยได้รับผลกระทบหนักจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ

เศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางเป็นพิเศษในสงครามการค้ารอบใหม่นี้ เพราะพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในช่วงหลัง และนำเข้าสินค้าจากจีนมากขึ้นตามลำดับ
SCB EIC ประเมินว่า หากสหรัฐฯ ใช้อัตราภาษีตอบโต้สินค้าไทย 36% ตามประกาศ มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ จะหดตัวสะสมราว 8.1 แสนล้านบาทใน 5 ปี

สินค้าส่งออกไทยที่เสี่ยงได้รับผลกระทบสูง ได้แก่

  • เซมิคอนดักเตอร์
  • คอมพิวเตอร์
  • ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า
  • อุปกรณ์สื่อสาร
  • แผ่นวงจรพิมพ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ ยังมีการประเมินว่าพนักงานราว 11% ของแรงงานทั้งหมดในไทยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้รับผลกระทบจากภาวะการส่งออกและการผลิตที่ชะลอลง


กนง. มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง รับมือเศรษฐกิจชะลอ

SCB EIC คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม 3 ครั้งในปี 2568 ลงสู่ระดับ 1.25% ภายในสิ้นปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและรองรับความไม่แน่นอนสูงที่กำลังเกิดขึ้น

การประชุม กนง. วันที่ 30 เมษายนนี้ มีโอกาสสูงที่ดอกเบี้ยนโยบายจะถูกปรับลด 0.25%


แนวโน้มค่าเงินบาท: อ่อนระยะสั้น แข็งค่าระยะยาว

ช่วงสั้น เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าในกรอบ 33.50–34.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากความเสี่ยงเศรษฐกิจและการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ แต่ระยะยาวเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่ากลับสู่กรอบ 32.50–33.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐในสิ้นปีนี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าจากความเชื่อมั่นที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาทอาจกดดันความสามารถแข่งขันของสินค้าไทยเพิ่มเติม ท่ามกลางแรงกดดันสงครามการค้าสหรัฐฯ

ข้อมูล : nationtv