คลังหั่นจีดีพีโตชะลอ ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ยอุ้มเศรษฐกิจ-ค่าเงิน

เศรษฐกิจไทยเผชิญปัจจัยลบรุมเร้า หลังสถานการณ์ภาษีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” สร้างแรงสั่นสะเทือนทั่วโลก ส่งผลให้กระทรวงการคลังเตรียมปรับลดคาดการณ์จีดีพีต่ำกว่า 3% ขณะเดียวกัน จับตาการประชุม กนง. 30 เมษายนนี้ คาดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพื่อประคองเศรษฐกิจและเสถียรภาพค่าเงินบาท

คลังปรับลดจีดีพีต่ำกว่า 3% รับผลกระทบสงครามการค้า

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2568 ลงจากกรอบเดิมที่ 2.5–3.5% ต่อปี เหลือต่ำกว่า 3% โดยปัจจัยเสี่ยงหลักคือผลกระทบจากการเก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ แม้จะยังไม่ปรากฏชัดในไตรมาสแรก แต่คาดว่าจะกระทบชัดเจนในช่วงครึ่งหลังปีนี้


นักเศรษฐศาสตร์ชี้ กนง.มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 2 รอบ

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า กนง.น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุมวันที่ 30 เมษายนนี้ และอาจลดอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เหลือ 1.50% จากปัจจุบัน 2.00% เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลงต่ำกว่า 2.5% ขณะที่ IMF ประเมินจีดีพีไทยปีนี้เพียง 1.8% เท่านั้น


นโยบายการเงิน-การคลังต้องทำงานร่วมกัน

นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก รวมถึง ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย จาก KKP และนายนริศ สถาผลเดชา จากธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) เห็นพ้องกันว่า นอกจากการลดดอกเบี้ยแล้ว รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการการคลังที่ “Target” ตรงกลุ่ม เช่น การช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานสูงและใช้ซัพพลายเชนในประเทศ เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจในระยะยาว


ฟันด์โฟลว์-ค่าเงิน: ลุ้นผลลดดอกเบี้ยหนุนเงินบาท

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล จากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เผยว่า ตลาดการเงินสะท้อนความคาดหวังว่ากนง.จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ รวม 0.50% เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้า ขณะเดียวกันการเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ กำลังสร้างแรงกดดันให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า หนุนให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในระยะต่อไป


เศรษฐกิจไทยปี 2568 ต้องเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการส่งออกที่อ่อนแรงอย่างต่อเนื่อง กนง.จึงถูกคาดหวังให้ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน มาตรการการคลังที่ตรงเป้าและการดึงดูดการลงทุนต่างชาติจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป

ข้อมูล : prachachat