แบงก์ชาติ เคาะ 3 กลุ่มทุนใหญ่ คว้าใบอนุญาต Virtual Bank เตรียมเปิดบริการกลางปี 69

ธปท. ประกาศคัดเลือก 3 กลุ่มทุน “กรุงไทย-AIS-กัลฟ์-โออาร์”, “SCBX-KakaoBank-WeBank” และ “แอสเซนด์ มันนี่” ให้เดินหน้าเตรียมความพร้อมให้บริการ Virtual Bank ภายในกลางปี 2569 ชี้การพิจารณาเน้นศักยภาพ-ความพร้อมทางเทคโนโลยีและการเข้าถึงผู้ใช้งานกลุ่ม underserved

ธปท. เคาะ 3 กลุ่มทุนใหญ่ เตรียมเปิด Virtual Bank ปี 2569

หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดรับคำขอใบอนุญาต Virtual Bank ตั้งแต่ 20 มีนาคม ถึง 19 กันยายน 2567 ล่าสุดได้มีการคัดเลือก 3 กลุ่มทุนใหญ่ที่ผ่านเกณฑ์ ได้แก่

  1. ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ AIS, Gulf และ OR
  2. กลุ่ม SCBX ร่วมกับ KakaoBank (เกาหลีใต้) และ WeBank (จีน)
  3. บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ในเครือซีพี

โดย ธปท. ได้ส่งรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกให้กระทรวงการคลังพิจารณาความเห็นชอบ คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในกลางปี 2568 และให้บริการจริงภายในปี 2569

5 กลุ่มทุนยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank

การแข่งขันครั้งนี้มีผู้ยื่นคำขอทั้งสิ้น 5 ราย ได้แก่

  • กรุงไทย – AIS – Gulf – OR
  • SCBX – KakaoBank – WeBank
  • Ascend Money (กลุ่มซีพี)
  • Sea Group – VGI – BTS – ไปรษณีย์ไทย – ธ.กรุงเทพ
  • Lightnet Group – WeLab (ฮ่องกง)

ทั้ง 5 กลุ่มถูกสัมภาษณ์เชิงลึกโดย ธปท. รายละกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะมีการคัดเลือกผู้ที่มีศักยภาพสูงสุดเพื่อเดินหน้าจัดตั้ง Virtual Bank ในไทย


วิเคราะห์ศักยภาพ 3 กลุ่มทุนที่ได้ใบอนุญาต Virtual Bank

🔶 กลุ่ม “กรุงไทย-AIS-Gulf-โออาร์”: มหาอำนาจด้านเงินทุนและฐานลูกค้า

  • กรุงไทย: ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ มีแอป “เป๋าตัง” ฐานผู้ใช้กว่า 50 ล้านราย
  • AIS: เครือข่ายมือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีลูกค้ารวมกว่า 50 ล้านราย
  • Gulf: ผู้นำธุรกิจพลังงานและดาต้าเซ็นเตอร์
  • OR: เครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน-ร้านกาแฟ Amazon มีสมาชิก Blueplus กว่า 8 ล้านราย

ข้อได้เปรียบ: ครบเครื่องทั้งช่องทางเข้าถึง, เงินทุน, ดิจิทัลแพลตฟอร์ม และเครือข่ายทั่วประเทศ


🔶 กลุ่ม SCBX-KakaoBank-WeBank: ประสบการณ์ธนาคารดิจิทัลระดับเอเชีย

  • SCBX: บริษัทแม่ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าทรานส์ฟอร์มสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
  • KakaoBank (เกาหลี) และ WeBank (จีน): Virtual Bank ชั้นนำในประเทศต้นแบบด้านธนาคารดิจิทัล

ข้อได้เปรียบ: ความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี, โมเดลธุรกิจธนาคารดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ


🔶 แอสเซนด์ มันนี่ (กลุ่มซีพี): ตัวจริงด้าน FinTech – เน้นการเข้าถึงทุกกลุ่ม

  • มีผู้ใช้งาน “ทรูมันนี่” มากกว่า 32 ล้านราย
  • มีฐานเครือข่ายซีพี ได้แก่ 7-Eleven, โลตัส, แมคโคร, TrueMove H, Dtac, ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์
  • ใช้ Credit Tech และ Alternative Data ให้บริการสินเชื่อแก่กลุ่ม underserved

เป้าหมายหลัก: สร้างความเท่าเทียมทางการเงิน (financial inclusion) โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ, MSMEs และผู้ขาดโอกาสทางการเงิน


เส้นทางสู่ Virtual Bank ในไทย: อนาคตที่ใกล้เข้ามา

หลังจากกระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ กลุ่มทุนที่ได้รับใบอนุญาตจะมีเวลา 1 ปีในการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านบุคลากร ระบบเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนเริ่มเปิดให้บริการภายในกลางปี 2569

การอนุญาตให้จัดตั้ง Virtual Bank ในไทยเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ ธปท. ตั้งเป้าเพื่อกระตุ้นการแข่งขัน ยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงิน และตอบโจทย์ยุคดิจิทัล


วิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและระบบการเงิน

  • ลดต้นทุนระบบธนาคาร: Virtual Bank ไม่มีสาขา ลดภาระค่าใช้จ่าย เพิ่มความคล่องตัว
  • เพิ่มทางเลือก-กระตุ้นการแข่งขัน: ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากการเปรียบเทียบบริการและอัตราดอกเบี้ย
  • ส่งเสริม financial inclusion: เข้าถึงกลุ่มประชาชนที่ยังไม่มีบัญชีธนาคาร (unbanked) และกลุ่ม underserved
  • เร่งพัฒนาระบบข้อมูล: เทคโนโลยี Credit Tech และ AI ช่วยสร้างโมเดลการปล่อยสินเชื่อที่แม่นยำยิ่งขึ้น

ภาพรวมและทิศทางข้างหน้า

การเปิดทางให้ 3 กลุ่มทุนชั้นนำเริ่มต้นธุรกิจ Virtual Bank ในไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธนาคารดั้งเดิมไปสู่ “ธนาคารยุคใหม่” ที่เน้นเทคโนโลยี ความรวดเร็ว และเข้าถึงทุกกลุ่ม

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ “ดิจิทัลไฟแนนซ์” ที่ไม่เพียงตอบโจทย์เศรษฐกิจในประเทศ แต่ยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาค

ข้อมูล : thansettakij