สงกรานต์ปีนี้ ‘ปีนัง’ กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ที่คู่รักคนไทยแห่เที่ยว จนยอดจองทริปพุ่งสูงถึง 80% ทำให้เมืองเก่าฝั่งทะเลของมาเลเซียขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมท่ามกลางการแข่งขันกับภูเก็ตและกัวลาลัมเปอร์ ในขณะที่กรุงเทพฯ ยังคงครองแชมป์ การจองทริปและพฤติกรรมการท่องเที่ยวในปีนี้แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของการเลือกจุดหมายที่เน้นความคุ้มค่าและความสะดวกสบายมากขึ้น
สงกรานต์ปีนี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาที่นักท่องเที่ยวไทยหันมามองประเทศเพื่อนบ้านอย่างปีนังมากขึ้น โดยจากข้อมูลที่เปิดเผยโดย AirAsia MOVE พบว่าจุดหมายปลายทางอย่างปีนังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นถึง 80% ในหมู่คู่รักไทย เป็นการเพิ่มขึ้นที่ไม่ธรรมดาและทำให้ปีนังขึ้นมาทำคะแนนแซงภูเก็ตไปแล้ว นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในวงการการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์
แม้กรุงเทพฯ ยังคงครองตำแหน่งยอดจองอันดับหนึ่งในหมู่ผู้เดินทางในประเทศ แต่ปีนังกลับกลายเป็นที่หมายใหม่ที่คู่รักไทยหันมาจองทริปกันมากขึ้น โดยมียอดจองที่พักสูงถึง 80% ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เริ่มมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ แทนที่จะไปแออัดตามสถานที่ท่องเที่ยวดั้งเดิมอย่างภูเก็ต ที่ถึงแม้จะมีความนิยมสูง แต่การไปเยือนปีนังก็เริ่มเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
จากข้อมูลการจองที่พักในประเทศ ปี 2568 นี้ กรุงเทพฯ ยังคงเป็นผู้นำโดยมียอดจองถึง 35% รองลงมาคือเชียงใหม่ที่มี 10% และภูเก็ตอยู่ที่ 6% อย่างไรก็ตาม ยอดจองที่เพิ่มขึ้นในปีนังสะท้อนถึงกระแสการหาจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่ไม่เพียงแค่หลีกหนีความแออัด แต่ยังต้องการประสบการณ์ที่คุ้มค่าและไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
นอกจากปีนังแล้ว ญี่ปุ่นและเวียดนามก็ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะช่วงที่ซากุระบานในญี่ปุ่น ที่ทั้งโตเกียว ฟุกุโอกะ และโอซาก้าเป็นเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปมากที่สุด ส่วนเวียดนาม โดยเฉพาะโฮจิมินห์ ดานัง และเกาะฟู้ก๊วก ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไม่แพ้กัน โดยการจองห้องพักในเมืองเหล่านี้เติบโตสูงถึง 30%
ในด้านพฤติกรรมการจองทริปช่วงสงกรานต์ในปีนี้ พบว่า 45% ของนักท่องเที่ยวเลือกจองแพ็กเกจที่รวมตั๋วเครื่องบินและโรงแรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายและการจัดการที่ไม่ยุ่งยาก
ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยว 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ คู่รัก (77%), นักท่องเที่ยวคนเดียว (10%) และกลุ่มใหญ่ (8%) ต่างมีกระแสการจองที่แตกต่างกัน โดยคู่รักมักเลือกจุดหมายที่มีความโรแมนติก เช่น ปีนังและโตเกียว ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวคนเดียวและกลุ่มใหญ่มีการเลือกจุดหมายที่มีความหลากหลายของกิจกรรม และความสะดวกสบายในที่พักที่มีราคาแตกต่างกัน
ในส่วนของการเตรียมตัวในการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงจองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้า 1-3 เดือน แต่กลุ่ม Millennials ยังคงมีแนวโน้มในการจองนาทีสุดท้ายที่ 13% ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย
นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มการใช้สมาร์ทโฟนในการจองทริปมากขึ้น โดยพบการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เพิ่มขึ้นกว่า 20% โดยเฉพาะแอปพลิเคชันของสายการบินและแพลตฟอร์มการจองโรงแรม.
แม้การใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวของคนไทยลดลง 10% ในปีนี้ โดยเฉพาะในส่วนของค่าที่พัก แต่การปรับตัวนี้แสดงให้เห็นถึงความฉลาดในการเลือกจองทริปที่คุ้มค่าและมีราคาไม่สูงจนเกินไป
ข้อมูล : thestandard