ผลกระทบแผ่นดินไหวต่อเศรษฐกิจไทย สัญญาณชะลอตัวเริ่มชัดเจน
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และอดีตกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนสะกายในประเทศเมียนมา ซึ่งเกิดขึ้นช่วงปลายไตรมาสแรก อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สอง โดยประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสองอาจขยายตัวติดลบเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตเกือบ 4%
แม้ว่าแผ่นดินไหวหลักจะเกิดขึ้นแล้ว แต่เหตุการณ์ After Shocks หรืออาฟเตอร์ช็อกที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่ชัด กำลังสร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เขื่อน ทางยกระดับ สะพาน และอาคารสูง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ธุรกิจอสังหาฯ กระทบหนัก คอนโดฯ เสี่ยงราคาดิ่ง
การชะงักงันของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยว รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง อสังหาริมทรัพย์ประเภท คอนโดมิเนียมและอาคารสูง ซึ่งมีมาตรฐานการก่อสร้างไม่แน่นหนาหรือมีข้อสงสัยเรื่องความมั่นคงของโครงสร้าง อาจประสบปัญหาการขายออกที่ยากขึ้น ส่งผลให้เจ้าของอสังหาฯ หลายรายทยอยปล่อยขายคอนโดมิเนียม ทำให้ราคาตลาดปรับลดลงอย่างมากในช่วงนี้ ขณะที่ผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนทิศทางไปสู่การซื้อบ้านแนวราบมากขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านโครงสร้างน้อยกว่าตึกสูง
ความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานเป็นปัจจัยชี้ขาด
นักวิชาการเตือนว่า หากประเทศไทยยังไม่มีมาตรการรองรับด้านมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจน ผลกระทบของแผ่นดินไหวครั้งนี้อาจส่งผลระยะยาว ทั้งต่อเศรษฐกิจ การลงทุน และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การรับรองมาตรฐานสิ่งก่อสร้างเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หากไม่มีมาตรการบังคับใช้ที่เข้มงวดเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในอนาคต เช่น แผ่นดินไหวและอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นในอาคารสูง
ข้อมูล : thansettakij