หลังจากที่ Bonchon ตัดสินใจยกเลิกการเก็บ ‘เซอร์วิสชาร์จ’ ซึ่งเป็นข้อถกเถียงมานานหลายปี ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างน่าสนใจ ทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่า 7% และจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 11% ยิ่งไปกว่านั้น การปรับกลยุทธ์ยังช่วยให้แบรนด์เติบโตต่อเนื่องในปี 2568 โดยได้รับการยอมรับจาก อนุพนธ์ นิธิยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด ว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้าเยี่ยมชมร้านมากขึ้น โดยเฉพาะการที่ราคาอาหารที่ลดลงช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
การยกเลิกเซอร์วิสชาร์จช่วยเพิ่มยอดขาย
การตัดสินใจยกเลิกการเก็บ ‘เซอร์วิสชาร์จ’ ของ Bonchon เป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยพบว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ยอดขายของแบรนด์เพิ่มขึ้นถึง 7% ขณะเดียวกันจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นกว่า 11% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าแนวทางนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี อนุพนธ์ นิธิยานันท์ กล่าวว่า การยกเลิกเซอร์วิสชาร์จช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้าสะดวกขึ้นและทำให้แบรนด์สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
การปรับตัวตามความต้องการของตลาด
แม้ว่า Bonchon จะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในกลุ่มไก่ทอดเกาหลีและได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้า Gen Z แต่การแข่งขันในตลาดร้านอาหารไก่ทอดเกาหลีมีความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ Bonchon จึงต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด โดยนอกจากการยกเลิกเซอร์วิสชาร์จแล้ว ยังมีการเปิดตัวแคมเปญใหม่ ๆ เช่น ‘แจ้งเกิดไก่ใหม่’ และการปรับสูตรอาหารครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี โดยเน้นที่การทำให้เนื้อไก่ส่วนอกมีความนุ่มขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความชอบของลูกค้าหลายกลุ่ม
การปรับเมนูและเพิ่มความหลากหลาย
ล่าสุด Bonchon ได้เปิดตัวซอสซิกเนเจอร์รสชาติใหม่ชื่อว่า ‘ยังนยอม’ ซึ่งมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวตามแบบฉบับของเกาหลี และถือเป็นรสชาติที่ใหม่สำหรับตลาดไทย นอกจากนี้ยังมีการขยายเมนูใหม่ ๆ เช่น เมนูปิ้งย่างเกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มต่างจังหวัดได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังได้พัฒนาเมนูรามยอนเพื่อดึงดูดลูกค้าที่มาทานคนเดียว
ขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัด
การขยายสาขาของ Bonchon ไปยังต่างจังหวัดเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ โดยการเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าท้องถิ่น เช่น การปรับคำอธิบายในเมนูจากคำเกาหลีให้เป็นคำที่เข้าใจง่ายมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนชื่อเมนู ‘บูเดจิเก’ เป็น ‘หม้อไฟเกาหลี’ และการแนะนำเมนูปิ้งย่างเกาหลี ซึ่งสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของคนไทยได้อย่างดี
การสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน CRM
นอกจากนี้ Bonchon ยังได้พัฒนาแคมเปญการตลาดต่อเนื่องสำหรับลูกค้ากลุ่ม CRM ซึ่งมีสมาชิกกว่า 1 ล้านคน และมีการใช้งานอย่างแอคทีฟถึง 20% ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าทั่วไปถึง 3 เท่า โดยจะมีกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มนี้ เช่น โปรโมชันวันพุธสำหรับสมาชิก
การขยายสาขาและการเติบโตในตลาด
ปัจจุบัน Bonchon มีสาขาทั้งหมด 122 แห่ง โดยการขยายสาขาในต่างจังหวัดในปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% โดยเฉพาะในเขตที่มีการแสดงผลการขายที่ดี เช่น ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ซึ่งเป็นโซนที่มีการแข่งขันสูง แต่ Bonchon กลับสามารถสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งได้จากกลุ่มนักศึกษา โดยสาขาอื่น ๆ ที่มีการขายดีเช่น เดอะ พรอมานาด, เซ็นทรัลลาดพร้าว และ เซ็นทรัลพระราม 2
ข้อมูล : thestandard
