วันที่ 20 มีนาคม 2568, นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงินของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยถึงการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงินและคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงินในการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ชั่วคราว เพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงชะลอตัวและไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน การปรับลดเกณฑ์ LTV คาดว่าจะช่วยลดปัญหาอุปทานคงค้างที่มีอยู่ในตลาด และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความเสี่ยงในระบบการเงินให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
รายละเอียดการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV
ในช่วงเวลาที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามที่คาดหวัง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ตัดสินใจผ่อนคลายเกณฑ์ Loan to Value (LTV) หรืออัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน ในการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่อง โดยการผ่อนคลายนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว
การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV จะส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยนในการให้สินเชื่อสำหรับอสังหาริมทรัพย์ในสองกรณีหลัก:
- สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะสามารถให้สินเชื่อได้ในอัตราส่วนสูงสุด 100% สำหรับสัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป
- สินเชื่อที่มูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จะให้สินเชื่อได้ในอัตราส่วนสูงสุด 100% ตั้งแต่สัญญากู้ครั้งแรก
การปรับเกณฑ์นี้จะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาอุปทานคงค้างสูง ขณะเดียวกันจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อาจกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงิน
การบังคับใช้ชั่วคราวเพื่อประโยชน์ในระยะยาว
การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ในครั้งนี้จะเป็นการชั่วคราวและมีการกำหนดกรอบเวลาชัดเจน โดยมีเป้าหมายในการบรรเทาผลกระทบในช่วงที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา ขณะเดียวกัน ธปท. ยังคงเน้นการรักษามาตรฐานในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้
การผ่อนคลายนี้ยังไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อระบบการเงินมากนัก เนื่องจากสถาบันการเงินในปัจจุบันมีการระมัดระวังในการให้สินเชื่ออย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการเงินที่ตึงตัวในขณะนี้

ข้อมูล : ธนาคารแห่งประเทศไทย