บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เดินหน้าสนับสนุนโครงการ “ส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน” โดยมุ่งเน้นการแปร เศษเป็นศิลป์ สร้างคุณค่าให้ชุมชนในพื้นที่ภาคกลาง ตะวันตก และตะวันออก ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งช่วยให้เกิดอาชีพที่มั่นคงและสามารถต่อยอดได้จริง
นายกิตติ วชิรจิรากร รองกรรมการผู้อำนวยการ PLUS กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าการศึกษาคือรากฐานของความเท่าเทียม การสนับสนุนให้เด็กพิเศษและครอบครัวเปราะบางสามารถพัฒนาทักษะและอาชีพที่เชื่อมโยงกับนิเวศท้องถิ่น จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม โครงการนี้เป็นการต่อยอดจากแนวทางของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ พร้อมผสานความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
PLUS สนับสนุนมากกว่าเงินทุน เน้นโครงสร้างพื้นฐานด้านอาชีพ
การสนับสนุนของ PLUS ในโครงการนี้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การให้เงินทุน แต่เน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางอาชีพที่สามารถต่อยอดได้ในระยะยาว โครงการนี้ให้ความสำคัญกับ แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดของเสีย และนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน และลดการพึ่งพาทรัพยากรจากภายนอก
นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมที่มีคุณภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่สามารถใช้ได้จริง เพื่อให้เด็กพิเศษและครอบครัวสามารถนำไปต่อยอดสู่การสร้างธุรกิจขนาดเล็กที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ด้วยแนวทางนี้ PLUS เชื่อว่าโครงการจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพที่มั่นคง
ความร่วมมือจาก 6 หน่วยงานหลัก สร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้
โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจาก 6 หน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญในการบูรณาการองค์ความรู้และทรัพยากรเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ยั่งยืน ได้แก่:
- กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) – ผู้ดำเนินการหลักของโครงการ สนับสนุนงบประมาณและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) – สนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรสำหรับการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้และโครงสร้างพื้นฐานด้านอาชีพ
- บริษัท ข้าวใหม่ปลามัน อัมพวา จำกัด – เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอาชีพ และการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา – ออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ผ่านศูนย์ออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน – ที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมสังคม นำความรู้ทางการเกษตรและเทคโนโลยีมาพัฒนาผลิตภัณฑ์
- ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น จังหวัดสมุทรสงคราม – ประสานงานการวิจัยระบบนิเวศท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนผ่านงานวิจัย
การร่วมมือของทั้ง 6 หน่วยงานนี้ ทำให้โครงการเป็นมากกว่าการให้โอกาสทางการศึกษา แต่ยังเป็นการสร้าง “Ecosystem แห่งการเรียนรู้และอาชีพ” ที่สามารถต่อยอดและขยายผลได้จริงในระดับชุมชน ช่วยให้เด็กพิเศษและครอบครัวเปราะบางสามารถพัฒนาตนเอง และมีอาชีพที่มั่นคงในระยะยาว
นายกิตติ กล่าวเพิ่มเติมว่า PLUS วางแผนติดตามผลและต่อยอดโครงการไปยังพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา และส่งเสริมการพัฒนาอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
