แม้เศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาเผชิญกับการชะลอตัว แต่ตลาดอาหารจานด่วน (QSR) ในไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดไก่ทอดที่มีมูลค่ากว่า 27,000 ล้านบาท ในขณะที่ “แมคโดนัลด์” เผยผลประกอบการปี 2567 ทุบสถิติรายได้สูงสุดในรอบ 40 ปี ด้วยยอดขาย 7,957 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 390 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาด QSR
การเติบโตของตลาดอาหารจานด่วนในไทย
ตลาดอาหารจานด่วนในประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 47,000 ล้านบาทในปี 2567 ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากตลาดไก่ทอดที่ครองส่วนแบ่งมากกว่า 50% ด้วยมูลค่าประมาณ 27,000 ล้านบาท ตามมาด้วยตลาดเบอร์เกอร์ที่มีมูลค่าราว 11,000 ล้านบาท และตลาดพิซซ่าที่มีมูลค่า 9,000 ล้านบาท ขณะที่แมคโดนัลด์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเบอร์เกอร์และไก่ทอด ได้รายงานผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคงในช่วงสามปีที่ผ่านมา

การเติบโตของ “แมคโดนัลด์” ในปี 2567
กิตติวรรณ อนุเวชกุล, ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ได้เปิดเผยผลประกอบการของ “แมคโดนัลด์” ว่ามีการเติบโตทั้งในด้านรายได้และกำไรทุกปีในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยในปี 2567, แมคโดนัลด์มีรายได้รวม 7,957 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 390 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 10% และ 11% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2566 โดยรายได้หลักมาจากเมนูเบอร์เกอร์ 55% และไก่ทอด 20%
กลยุทธ์ขับเคลื่อนการเติบโตของ “แมคโดนัลด์” ในปี 2568
ในปี 2568, แมคโดนัลด์ตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่องผ่านการใช้กลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ได้แก่
- Flagship Value Platform – การเน้นราคาที่เหมาะสมกับผู้บริโภคในยุคที่กำลังซื้อจำกัด โดยมีเมนูราคาประหยัด เช่น ชุด Everyday Value Meals ราคา 99 บาท และชุด Mcsavers 1 + 1 ราคา 55 บาท ที่ช่วยเพิ่มความถี่ในการรับประทาน
- รุกตลาดไก่ทอดและสร้าง Brand Love – การใช้กลยุทธ์แฟนด้อมมาร์เก็ตติ้งในการเจาะตลาด Gen Z โดยการใช้พรีเซ็นเตอร์ที่มีความนิยมในกลุ่มนี้ เช่น “ต้าห์อู๋-ออฟโรด” และตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้จากไก่ทอด 15% ในปี 2568
- ครองตลาดเบอร์เกอร์อันดับ 1 – แมคโดนัลด์ยังคงเป็นเบอร์ 1 ในตลาดเบอร์เกอร์ พร้อมการพัฒนารายการเมนูใหม่ๆ เช่น ซามูไร ดีลักซ์ เบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากเมนูขายดีอย่างซามูไรเบอร์เกอร์

ข้อมูล / ภาพ : positioningmag