หุ้น Tesla ร่วงต่อเนื่อง นักลงทุนกังวลผลประกอบการ

Tesla สูญเสียมูลค่าต่อเนื่อง แม้มีบทวิเคราะห์สนับสนุน
หุ้นของ Tesla ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนมีนาคม หลังจากที่ปิดเดือนกุมภาพันธ์ด้วยการลดลงสูงถึง 28% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม หุ้น Tesla ลดลงอีก 3% ส่งผลให้มูลค่าตลาดลดลงต่ำกว่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และภายในวันที่ 7 มีนาคม มูลค่าของ Tesla ลดลงมาอยู่ที่ 847,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แม้ว่านักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley จะยังคงจัดให้ Tesla เป็นหุ้นแนะนำอันดับหนึ่งในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ แต่กระแสความกังวลของนักลงทุนต่อแนวโน้มผลประกอบการยังคงสูง โดยในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 รายได้จากการขายรถยนต์ของ Tesla ลดลง 8% จากปีก่อนหน้า และกำไรจากการดำเนินงานลดลงถึง 23% เนื่องจากการปรับลดราคาขายของรถรุ่นหลัก เช่น Model 3, Model Y, Model S และ Model X

แรงกดดันจากมาตรการภาษีและบทบาททางการเมืองของ Musk
Tesla ต้องเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งกระทบต่อซัพพลายเชนของบริษัท เนื่องจาก Tesla มีซัพพลายเออร์หลักในแคนาดาและเม็กซิโกที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

ขณะเดียวกัน บทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาลของ Donald Trump ก็กลายเป็นประเด็นที่สร้างแรงเสียดทาน Musk ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำหน่วยงาน Department of Government Efficiency (DOGE) ที่มุ่งเน้นการลดงบประมาณและกฎระเบียบของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของหน่วยงานนี้ และวิพากษ์วิจารณ์ว่า Musk อาจใช้ตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทในเครือของตนเอง

กระแสแอนตี้ Tesla และ Elon Musk รุนแรงขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป
การมีส่วนร่วมของ Elon Musk กับรัฐบาล Donald Trump และท่าทีทางการเมืองของเขาทำให้เกิดกระแสต่อต้านรุนแรงขึ้นในยุโรปและสหรัฐฯ ในเยอรมนี Musk ถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจากแสดงการสนับสนุนพรรคขวาจัด AfD ที่มีนโยบายต่อต้านผู้อพยพ รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลที่ขัดแย้งเกี่ยวกับสงครามยูเครน ในฝรั่งเศส Tesla หลายคันถูกเผาทำลายในเหตุการณ์วางเพลิง ส่วนในลอนดอนก็มีการติดป้ายโฆษณาที่พาดพิง Tesla ด้วยถ้อยคำเสียดสี

ในสหรัฐอเมริกา กระแสต่อต้าน Tesla ทวีความรุนแรงขึ้นเช่นกัน โดยเกิดเหตุทำลายทรัพย์สินที่โรงงาน Tesla ในโคโลราโดเมื่อปลายเดือนมกราคม และมีการชุมนุมประท้วงหน้าศูนย์จำหน่าย Tesla ในนิวยอร์ก นอกจากนี้ กระแส “Tesla Takedown” ที่รณรงค์ให้ประชาชนเลิกซื้อสินค้าของ Elon Musk และขายหุ้น Tesla กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น

Tesla ถูกคู่แข่งแซงหน้าในเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ
แม้จะเผชิญแรงกดดันหลายด้าน Elon Musk ยังคงแสดงความมั่นใจในอนาคตของ Tesla โดยระบุว่า บริษัทกำลังพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทคู่แข่งเริ่มแซงหน้า Tesla ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัตโนมัติ โดยเฉพาะ Waymo บริษัทลูกของ Alphabet (Google) ที่ให้บริการ Robotaxi เชิงพาณิชย์ในซานฟรานซิสโก ฟีนิกซ์ และลอสแอนเจลิสแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทรถยนต์จากจีน เช่น BYD และ Xpeng ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติในราคาที่ถูกกว่า Tesla มาก และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดย Tesla เองก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันในการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถแข่งขันได้ในอนาคต