บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP คาดการณ์ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 1 ปี 2568 จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการเติบโตของธุรกิจคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในขณะเดียวกันก็เผยผลประกอบการปี 2567 ที่มีกำไรสุทธิ 118.06 ล้านบาท แม้รายได้รวมจะลดลงจากปีก่อน
ทิศทางธุรกิจใน Q1/2568 สดใส รับการลงทุนภาครัฐ
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการของ CCP เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในไตรมาส 1/2568 ว่า บริษัทคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างจะได้รับผลดีจากการเร่งลงทุนในโครงการของภาครัฐทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับระบบรางและรถไฟฟ้า ซึ่งจะผลักดันความต้องการคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเติบโตของธุรกิจนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากความสนใจในเทรนด์การก่อสร้างรักษ์โลก ที่เน้นการลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต
การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิตคอนกรีตสำเร็จรูป ทำให้ CCP สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภาครัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชนที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ธุรกิจย่อย “ชาลี” รับกระแสตอบรับดีจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ
ธุรกิจย่อยของ CCP อย่าง Charlie Top Logistics Solutions Co., Ltd. ซึ่งดำเนินธุรกิจการจัดการคลังสินค้า Free Zone (เขตปลอดอากร) ได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในความต้องการพื้นที่จัดเก็บสินค้าและบริการโลจิสติกส์ครบวงจร การเติบโตในส่วนนี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการของบริษัท
การที่ Charlie สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ดีนั้นเป็นการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันให้กับบริษัท ซึ่งสามารถสร้างความมั่นคงในรายได้และกำไรในระยะยาว
ผลประกอบการปี 2567 และแผนการจ่ายปันผล
สำหรับผลประกอบการในปี 2567 CCP รายงานรายได้รวม 2,769.68 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,004.77 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 118.06 ล้านบาท ลดลงจาก 156.32 ล้านบาทในปี 2566 โดยการลดลงของกำไรส่วนใหญ่เกิดจากผลประกอบการของบริษัทย่อย SMART ที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม CCP ยังคงมีกำไรจากกิจการหลักเพิ่มขึ้น 83.16% โดยเฉพาะจากการบริหารจัดการต้นทุนและต้นทุนพลังงานที่ลดลง การประเมินกลยุทธ์ใหม่เพื่อรับมือกับตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้บริษัทสามารถรักษาผลประกอบการในระดับที่ดี และจะเสนอมติจ่ายปันผล 0.01 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 27.68 ล้านบาท
สัญญาณบวกในอนาคตพร้อมเป้าหมาย “Backlog” ที่ไม่ต่ำกว่า 1,850 ล้านบาท
CCP ระบุว่า การเร่งประมูลงานและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ได้ไม่ต่ำกว่า 1,850 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของบริษัทในปี 2568 การเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ จากทั่วประเทศมีความสำคัญในการสร้างรายได้และเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการ
ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตที่ดีในธุรกิจต่างๆ CCP คาดว่าการเติบโตในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จะยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี
