การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567 นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สร้างความสนใจให้กับประชาชนทั่วประเทศ โดยการได้มาซึ่ง สว. ในครั้งนี้ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ โดยใช้วิธีการเลือกกันเองในกลุ่มผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์จาก 20 กลุ่มอาชีพหลัก ซึ่งแยกจังหวัดที่มีสว. มากที่สุด น้อยที่สุด และจังหวัดที่ไม่มี สว. ได้ดังนี้
จังหวัดที่มี สว. มากที่สุด
- บุรีรัมย์ 14 คน
- กรุงเทพมหานคร 9 คน
- สุรินทร์ 7 คน
- อยุธยา 7 คน
- อ่างทอง 6 คน
- สตูล 6 คน
จังหวัดที่มี สว. น้อยที่สุด
- แพร่ 1 คน
- สระบุรี 1 คน
- ตรัง 1 คน
- ชุมพร 1 คน
- พิษณุโลก 1 คน
- ลำปาง 1 คน
- หนองคาย 1 คน
- พะเยา 1 คน
- อุดรธานี 1 คน
จังหวัดที่ไม่มี สว.
- กาฬสินธุ์
- กำแพงเพชร
- เพชรบูรณ์
- แม่ฮ่องสอน
- มหาสารคาม
- ตาก
- ร้อยเอ็ด
- ลพบุรี
- นราธิวาส
- สกลนคร
- สระแก้ว
- อุตรดิตถ์
แนวโน้มและผลกระทบต่อการเมืองไทย
การที่บางจังหวัดมี สว. มากกว่า หรือไม่มี สว. เลย อาจส่งผลกระทบต่อสมดุลทางการเมืองและนโยบายในระดับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่ ความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ และการกระจายอำนาจในระดับท้องถิ่น
การที่ อนุทิน ชาญวีรกูล หรือ เนวิน ชิดชอบ จะมีอิทธิพลกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในประเทศไทยนั้น เป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้ในเชิงการเมือง ด้วยปัจจัยดังต่อไปนี้
อิทธิพลทางการเมืองและเครือข่าย
- อนุทินและเนวิน มีอิทธิพลทางการเมืองสูง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญ
- พรรคภูมิใจไทย นำโดย อนุทิน มีความสัมพันธ์ที่ดีในหลายพื้นที่ ทำให้มีเครือข่ายผู้สนับสนุนที่กว้างขวาง
ระบบการเลือกตั้ง สว. ปี 2567
- การเลือกตั้ง สว. ครั้งนี้ ใช้วิธีการเลือกกันเองจาก 20 กลุ่มอาชีพ โดยไม่พึ่งพาการแต่งตั้งจากผู้มีอำนาจโดยตรง
- การสร้างอิทธิพลทางอ้อม เช่น การสนับสนุนผู้สมัครที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด มีความเป็นไปได้
กลยุทธ์ทางการเมือง
- หากมีการสนับสนุนผู้สมัคร สว. จากกลุ่มอาชีพที่มีความใกล้ชิด หรือเป็นเครือข่ายทางการเมือง ก็อาจทำให้ สว. จำนวนหนึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนนโยบายและแนวทางของกลุ่มนั้นๆ
- พรรคภูมิใจไทย มีนโยบายที่เข้าถึงประชาชนในระดับท้องถิ่น และเป็นที่นิยมในบางจังหวัด ซึ่งสามารถสร้างฐานเสียงให้กับผู้สมัคร สว. ได้
ข้อสังเกตและความเป็นไปได้
- ในทางปฏิบัติ การฮั้วเลือกสว. ในเชิงที่ทุกคนเป็นพวกเดียวกันทั้งหมด อาจเป็นไปได้ยาก เพราะ สว. มาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพและภูมิหลัง
- แต่อาจเป็นไปได้ที่จะมี สว. ส่วนหนึ่ง ที่สนับสนุนนโยบายหรือนักการเมืองบางคน เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือเครือข่ายทางอาชีพ
ผลกระทบและความสำคัญ
- หากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลต่อ สว. จำนวนมาก จะส่งผลต่อการผ่านร่างกฎหมายและนโยบายที่สำคัญในรัฐสภา
- โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเด็นที่ต้องการเสียงสนับสนุนจาก สว. เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการเลือกนายกรัฐมนตรี
การที่ อนุทิน หรือ เนวิน จะฮั้วเลือกสว. ในความหมายของการมีอิทธิพลหรือได้รับการสนับสนุนจาก สว. จำนวนมากนั้น มีความเป็นไปได้ในเชิงการเมือง แต่เป็นไปได้ในลักษณะของเครือข่ายและอิทธิพลทางอ้อมมากกว่าการควบคุมโดยตรง
